แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ความงาม แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ความงาม แสดงบทความทั้งหมด

29/5/57

วิธีเลือกเครื่องสำอางสำหรับสาวผิวคล้ำ ให้สวยเจิดแบบไม่พลาด




          สาวผิวคล้ำ มักไม่กล้าลงมือแต่งหน้าเพื่ออัพลุคให้สวยกว่าเดิม เพราะกลัวว่าสีเครื่องสำอางจะไม่เข้ากับสีผิวของตน จึงไม่แปลกใจเลยว่าสาวผิวคล้ำหลายคน มักดิ้นรนหาทางทำให้ตัวเองดูขาวขึ้น จนพลาดไปเลือกวิธีที่เป็นอันตรายก็ยอมเพราะอยากสวยสวย แต่ความเชื่อที่ว่าผิวขาวคือผิวสวยนั้นไม่จริงเลยค่ะ สาวผิวคล้ำถ้าแต่งดี ๆ และเลือกเครื่องสำอางที่เหมาะกับผิว แน่นอนว่าก็สวยโดดเด่นได้เหมือนกัน วันนี้เราจึงนำวิธีเลือกเครื่องสำอางสำหรับสาวผิวคล้ำมาฝาก ถ้าคุณเป็นหนึ่งในสาวผิวคล้ำ ขอบอกเลยว่าวิธีนี้จะทำให้คุณรักสีผิวของคุณยิ่งขึ้นแน่นอน

          วิธีเลือกรองพื้นสำหรับสาวผิวคล้ำ

          ความผิดพลาดที่เห็นบ่อยครั้งของสาวผิวคล้ำ คือการเลือกสีรองพื้นผิด เมื่อเลือกสีรองพื้นที่ขาวสว่างกว่าสีผิวธรรมชาติของตัวเองไปก็จะทำให้หน้าลอย และดูคล้ำเป็นสีเทา ดูแล้วน่ากลัวมากกว่าสวยเสียอีก ฉะนั้นควรเปลี่ยนมาเลือกรองพื้นในเฉดสีที่ใกล้เคียงกับสีผิวที่สุด เพราะจะทำให้ผิวของคุณดูเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมขาติ และช่วยให้เผยถึงสีผิวคล้ำที่สวยงามออกมาปรากฏต่อสายตาผู้ที่พบเห็นด้วยล่ะ

          วิธีเลือกลิปสติกสำหรับสาวผิวคล้ำ

          สาวผิวคล้ำควรเลือกสีลิปสติกที่ออกไปในโทนเข้ม เช่น สีพลัม สีน้ำตาล สีไวน์ สีเบอร์กันดี และสีเบอร์รี ควรเลือกลิปสติกเนื้อแมตต์มากกว่าเนื้อเงาวาว และควรหลีกเลี่ยงลิปสติกโทนสีนู้ด รวมทั้งลิปสติกเนื้อมุก ที่จะทำการแต่งหน้าของคุณกลับดูไม่เจิดเอาเสียเลย

          วิธีเลือกอายแชโดว์สำหรับสาวผิวคล้ำ
          สำหรับอายแชโดว์ของสาวผิวคล้ำจะเป็นสีอะไรก็ได้ที่ชอบ ไม่ว่าจะเป็นสีบรอนซ์ สีน้ำตาล สีทอง สีทองแดง ไปจนถึงสีฟ้า สีเขียว หรือสีม่วง และสามารถเลือกเนื้ออายแชโดว์แบบเมทัลลิกประกายเพชร เนื้อชิมเมอร์ หรือเนื้อแมตต์ได้แล้วแต่ชอบ 

          วิธีเลือกบลัชออนสำหรับสาวผิวคล้ำ

          สีบลัชออนที่ดีที่สุดสำหรับสาวผิวคล้ำคือจำพวกสีส้มคอรัล สีชมพูกลีบกุหลาบ สีไวน์ และสีส้มเข้มจัด หรือพวกชิมเมอร์ สีบรอนซ์ และสีทอง ก็จะช่วยเสริมให้ผิวคล้ำดูเปล่งประกายน่ามองมากยิ่งขึ้นด้วยค่ะ

          นอกจากนี้ หากคุณมีผิวคล้ำแบบนวลเนียน จะยิ่งน่ามองกว่าผิวคล้ำที่เต็มไปด้วยสิวฝ้า ฉะนั้นควรบำรุงผิวให้ดีอยู่เสมอโดยการมาส์กหน้าบ้าง ทากันแดดก่อนออกจากบ้านเพื่อป้องกันรังสียูวี ดื่มน้ำเยอะ ๆ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รวมทั้งเลือกเครื่องสำอางแต่งหน้าที่เหมาะกับสีผิวคล้ำมาใช้ด้วย ก็จะยิ่งช่วยขับความโดดเด่นออกมามากขึ้น เพียงเท่านี้สาวผิวคล้ำก็จะสวยเจิดจนใคร ๆ ก็อิจฉา



28/5/57

เทคนิคความงาม สไตล์ "Pearypie"(Woman Plus)




เทคนิคความงาม สไตล์ "Pearypie"(Woman Plus)

          ณ เวลานี้ ถ้าพูดถึงเมคอัพอาร์ทิสต์ชั้นนำของเมืองไทย คงไม่มีใครไม่รู้จักเธอคนนี้ "แพรี่พาย" ซึ่งเธอเป็นแฟชั่นไอคอนและบิวตี้กูรู แล้วเดี๋ยวนี้ไปงานไหนที่เกี่ยวกับความสวยความงามนั้น เป็นต้องเจอเธออยู่แทบทุกงานเลย วันนี้จึงมีโอกาสได้ถามเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยสำหรับการแต่งหน้าที่เธอจะมาฝากไอเดียให้กับชาว W+ กันค่ะ
          มีแนวคิดในการแต่งหน้ายังไงบ้าง…

          สำหรับแพรนะคะ แพรรู้สึกว่าเดี๋ยวนี้เวลาเราเห็นดาราแต่งหน้า เราจะเห็นว่าเค้าเป๊ะมาก แต่ที่เป๊ะนั่นก็เพราะเค้าแสดงละคร หรือว่าเค้าออกงาน ไปคอนเสิร์ต เข้าทีวี จึงมีปริมาณการใช้เครื่องสำอางที่เยอะมาก แต่ว่าสาว ๆ สมัยนี้ เห็นวัยรุ่นพยายามเลียนแบบการแต่งหน้าเหมือนดารา ซึ่งปริมาณการใช้รองพื้นหรือแป้ง รู้สึกว่ามันไม่จำเป็นสำหรับแค่การไปเรียนมหาลัยหรือไปเดินพารากอน ซึ่งการแต่งหน้าจริง ๆ มันไม่จำเป็นต้องลงรองพื้นหนา ลงเยอะเพื่อปกปิดทุกอย่าง การใช้เครื่องสำอางจริง ๆ มันเป็นแค่การขับความสวยเท่านั้นเอง สำหรับเทรนด์การแต่งหน้าในปีนี้ มีความคิดว่าลดปริมาณการใช้รองพื้น ลดปริมาณการใช้แป้ง มันจะทำให้รู้สึกว่าหน้าดูมีน้ำมีนวลมากขึ้น แล้วก็ลุคเหมาะกับซัมเมอร์ มันจะไม่มันเร็วด้วยแล้วก็อยู่ได้ตลอดวัน

           แล้วถ้าไม่มั่นใจในการแต่งหน้าหรือแต่งหน้าไม่เป็นแนะนำยังไงดี…

          ก็เข้าไปที่เว็บไซต์หรือยูทูบของแพรได้เลยค่ะ เพราะแพรก็สอนแต่งหน้าหลายแบบมาก ไม่ว่าจะตั้งแต่วันธรรมดาใส ๆ จนถึงวันที่รองพื้นเยอะไปงาน จริง ๆ หากว่าแต่งหน้าไม่เป็นเลย แนะนำให้เริ่มหาส่วนที่รู้สึกว่าเราเด่นบนหน้าก่อน เช่นเรามีรูปปากสวย แต่เรามีตาชั้นเดียว ก็ไม่จำเป็นต้องกรีดลายเนอร์เลย อาจจะปัดมาสคาร่า แล้วเล่นกับปากเราโดยทาปากสีแซบ ๆ ไปเลย ก็หาจุดเด่นบนใบหน้าเราแล้วใช้เครื่องสำอางขับให้มันสวยขึ้น

           เทคนิคในการดูแลผิวหน้าเวลาแต่งหน้ามีอะไรบ้าง…

          เวลาแต่งหน้าออกงานก็จะใช้รองพื้นที่เยอะ เพราะเวลาเจอแฟลช แสง ไฟ แต่ถ้าเป็นวันธรรมดาแพรแทบจะไม่ได้แต่งหน้าเลยด้วยซ้ำ ถ้าวันไหนเราไม่ได้ออกจากบ้าน หรือแค่อยู่แถว ๆ บ้าน ก็จะไม่แต่งหน้าเลย ปล่อยผิวหน้าให้พักบ้าง ทุกครั้งที่แต่งหน้าก็ทำความสะอาดผิวหน้าให้ดีที่สุด ทำความสะอาดอย่างล้ำลึก พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำเยอะ ๆ ซึ่งเป็นปัจจัยที่เบสิคแต่ส่วนมากคนก็ยังทำไม่ได้ บางคนก็ชอบเล่นอินเตอร์เน็ต แล้วก็เพลิน คือต้องรู้จักแบ่งเวลาให้ถูกต้องด้วยค่ะ









ทิ้งท้ายให้สาวๆ W+ หน่อยค่ะ…

          การแต่งหน้าเป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องเบสิคมีมานานแล้ว แต่คือสิ่งสำคัญที่ผู้หญิงสวยจริง ๆ มันต้องมาจากใจ ความมั่นใจ เริ่มจากตัวเราก่อน คือเราต้องรักตัวเองก่อนแล้วทุกอย่างจะตามมา สำหรับ W+ นะคะ ถ้าอยากทำอะไรก็ให้ทำให้เต็มที่กับชีวิตค่ะ






กรีดอายไลน์เนอร์ขอบตาล่าง แบบแคทอายส์สุดเฉี่ยว ชิคกว่าเดิมเยอะ !




ขอขอบคุณภาพประกอบจาก thebeautydepartment.com

          เชื่อว่าทั้งสาวตาตี่ และตาโต ต่างก็รักในการกรีดอายไลน์เนอร์อยู่แล้วล่ะ เพราะการกรีดอายไลน์เนอร์สามารถทำให้ใบหน้าของคุณดูสดใสขึ้นได้ แม้ไม่ได้แต่งหน้าจัดเต็มก็ตาม แถมการกรีดอายไลน์เนอร์ยังมีหลากหลายแบบด้วย ^^

          แต่สำหรับสาวเปรี้ยว แน่นอนว่าต้องหลงรักการกรีดอายไลน์แบบแคทอายส์ ด้วยเทคนิคการตวัดหางเฉี่ยว ๆ เป็นแน่ เพราะมันจะทำให้คุณดูเปรี้ยวมั่นเข็ดฟันสุด ๆ ว่าแล้วเราลองอัพความเก๋ขึ้นด้วยการหันมากรีดที่ขอบตาล่างบ้างดีกว่าเนอะ และวันนี้เรามีวิธีการกรีดขอบตาล่างแบบแคทอายส์จากเว็บไซต์ icareyour มาฝากสาว ๆ ที่อยากเปรี้ยวซ่ากันด้วยค่ะ

          อุปกรณ์ที่ต้องใช้

          อายแชโดว์สีนู้ด, อายไลน์เนอร์แบบดินสอ และ แปรงเขียนขอบตาแบบหัวตัด

          วิธีทำ 

          1. ทาอายแชโดว์สีนู้ดลงไปให้ทั่วเปลือกตา

          2. หยิบอายไลน์เนอร์แบบดินสอมากรีดขอบตาล่างแบบปกติ

          3. เริ่มตวัดหางแหลมออกมาจากตรงหัวตาอย่างระมัดระวัง

          4. ลากดินสอย้ำเส้นขอบตาล่างอีกครั้ง แล้วลากยาวให้เลยหางตาออกไป แล้วตวัดให้เป็นหางเบา ๆ 

          5. ใช้แปรงหัวตัดมาตวัดให้เกิดหางเฉี่ยว ๆ 

          6. เก็บรายละเอียด โดยการเขียนขอบตาล่างย้ำอีกทีให้เส้นคมชัดเจน




          แค่ทำตามวิธีง่าย ๆ แค่นี้ คุณก็จะได้ดวงตาคมเฉี่ยวแบบใหม่สุดเก๋ ที่หากกรีดออกไปเดินเล่นข้างนอก รับรองว่าต้องมีคนชมในความสร้างสรรค์ของคุณชัวร์เลยล่ะ




คนผิวดำและริมฝีปากดำควรแต่งหน้าอย่างไร ให้สวยปิ๊ง !




          คนผิวดำและริมฝีปากดำควรแต่งหน้าอย่างไร ? อาจมีสาวผิวเข้มหลายคนเคยถอดใจกันไปไม่มากก็น้อย สำหรับการเติมแต่งเครื่องสำอาง เพื่อช่วยเสริมความงามบนใบหน้าให้ดูสวยเด้งมีมิติเหมือนสาว ๆ คนอื่น เพราะไม่ว่าจะเลือก หรือลองแต่งหน้ามาแล้วหลากสไตล์ ก็ยังดูไม่สวยเริ่ดถูกใจสักที โดยเฉพาะสีสันของริมฝีปากที่ค่อนข้างดำคล้ำของสาวผิวเข้ม นับว่าเป็นปัญหาที่สร้างความหนักใจให้สาวผิวเข้มเป็นที่สุด เอาเป็นว่าใครที่กำลังนั่งคิดไม่ตกกับปัญหานี้อยู่ เรามีทางออกดี ๆ ด้วยเคล็ดลับแต่งหน้า และทริคการตกแต่งเรียวปากสำหรับคนผิวดำมาฝากกันค่ะ
          ผิวหน้าเรียบเนียนสดใส

          หลังจากลงครีมบำรุงและครีมกันแดดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้สาว ๆ เลือกใช้รองพื้นเฉดสีสวยใกล้เคียงกับผิวหน้ามากที่สุด (หากต้องการเพิ่มความสดใสอาจใช้รองพื้นสีสว่างกว่าผิว 1 เฉดก็ได้เช่นกัน) เกลี่ยเบา ๆ ให้ทั่วหน้าและลำคอ ด้วยปลายนิ้ว หรือแปรงอย่างเบามือ จากนั้นจึงปัดด้วยแป้งฝุ่นอย่างบางเบาให้ทั่วผิว

          ตกแต่งคิ้วและดวงตา
          จากนั้นมาตกแต่งคิ้วสวยคมได้รูป แล้วใช้ที่เขียนคิ้วแบบฝุ่นสีน้ำตาลเข้มถมลงไปตามแนวคิ้วที่ได้วาดไว้ สำหรับดวงตาให้เลือกใช้อายแชโดว์โทนสีกลาง ๆ อย่าง สีทอง สีน้ำตาล สีนู้ด ตกแต่งดวงตาแบบซอฟต์สโมกกี้อาย เพื่อเพิ่มความโดดเด่นและไม่ทำให้ดวงตาเข้มดุมากเกินไป โดยการลงอายแชโดว์สีนู้ดผสมชิมเมอร์ทาให้ทั่วเปลือกตา แล้วลงอายแชโดว์สีน้ำตาลเข้มตามรอยพับตาใช้แปรงเกลี่ย หรือเบลนด์สีให้ดูสวยฟุ้ง แล้วเขียนอายไลน์เนอร์เป็นเส้นเล็กชิดขอบตา จากนั้นจึงดัดขนตาแล้วปัดมาสคาร่า หรือติดขนตาปลอม

          แก้มสวยระเรื่อ
          ตกแต่งพวงแก้มให้มีสีสันและมีเสน่ห์ ด้วยการใช้แปรงปัดแก้มปัดบลัชออนสีส้มอมน้ำตาล หรือสีน้ำตาลอมแดง ให้ทั่วบริเวณพวงแก้ม ไล่ตั้งแต่ช่วงกลางแก้มไปจนถึงขมับอย่างเบามือ ทางที่ดีสาวผิวเข้มหลีกเลี่ยงบลัชออนสีโทนอ่อนอย่าง สีชมพู สีส้มพีช เป็นต้น เพราะจะทำให้หน้าของคุณลอยและดูไม่เป็นธรรมชาติ

          ริมฝีปากสวยเด่นขับผิว

          เพื่อเป็นการเติมความสวยอย่างสมบูรณ์แบบให้กับสาวผิวเข้ม ให้เลือกใช้ลิปคอนซีลเลอร์สำหรับริมฝีปากทารองพื้น เพื่อกลบความของเข้มสีปากเสียก่อน จากนั้นจึงใช้ลิปสติกโทนสีออกน้ำตาล อาจเป็นสีแดงอมส้ม สีม่วง สีชมพูส้ม สีส้ม หรือสีนู้ดน้ำตาล ทาบาง ๆ ให้ทั่วริมฝีปาก อาจเติมกลอสลงไปด้วยนิดหน่อย เพื่อช่วยขับผิวสีเข้ม ๆ ของคุณให้ดูสว่างขึ้นได้

          ง่าย ๆ เพียงเท่านี้สาวผิวเข้มก็ไม่ต้องมานั่งเสียเซลฟ์อีกต่อไป ไม่ว่าใครจะเคยเฟล หรือแต่งหน้าพลาดมาแล้วกี่ครั้ง รับรองเลยว่าเทคนิคนี้ช่วยให้คุณเจิด+เริ่ด จนใคร ๆ เห็นเป็นต้องอิจฉาอย่างแน่นอน !



วิธีเฉดดิ้งหน้าเรียว ดูสวยเด็กลงได้ไม่ง้อโบท็อกซ์




          เฉดดิ้งหน้าเรียว หนึ่งในขั้นตอนการแต่งหน้าที่อาจดูยุ่งยากไปนิด แต่รับรองว่าผลลัพธ์จะทำให้คุณอึ้งเกินคาด เพียงแค่ใช้รองพื้นสีเข้ม ควบคู่กับไฮไลท์เตอร์ เท่านี้ก็จะได้หน้าเรียวสมใจไม่ต้องไปง้อโบท็อกซ์เลยจ้า

          วันที่ 21 พฤษภาคม 2014 เว็บไซต์เดลี่เมล  หยิบยกเรื่องราวของเคล็ดลับการแต่งหน้าแบบเหล่าคนดังเซเลบริตี้ทั้งหลายมาแชร์กัน อย่างที่เราเห็นว่ายามออกงานใบหน้าของพวกเธอล้วนเรียวสวยเป๊ะกันทุกคน นั่นก็เพราะอาศัยการ เฉดดิ้ง นั่นเอง มือใหม่ที่เพิ่งเริ่มหัดแต่งหน้าอาจจะยังไม่รู้จักกันดี ซึ่งวิธีนี้เป็นการปกปิดจุดด้อยบนใบหน้า เพื่อเผยจุดเด่นให้ออกมาสวยสะดุดตาด้วยเครื่องสำอาง

          ทั้งนี้ เครื่องสำอางหลักที่ต้องใช้คือ รองพื้นสีเข้ม คู่กับไฮไลท์เตอร์สีขาว โดยเริ่มจากการลบจุดด้อยบนใบหน้าด้วยรองพื้นสีเข้ม และเน้นจุดเด่นด้วยไฮไลท์เตอร์สีขาว ซึ่งผู้หญิงแต่ละคนก็มีรูปหน้าไม่เหมือนกัน ฉะนั้นวิธีการทำก็จะแตกต่างกันออกไป

          สำหรับผู้หญิงหน้าเรียว ควรลงรองพื้นสีเข้มตรงกรอบหน้า เริ่มจากหน้าผากลงมาถึงกราม ปีกจมูก และป้ายตรงคางเป็นรูปเครื่องหมายเท่ากับ จากนั้นลงไฮไลท์เตอร์สีขาวบนหน้าผาก ใต้ตา และคาง แล้วเบลนด์ให้เนียนเข้ากัน ส่วนสาวคนไหนที่มีใบหน้ารูปหัวใจก็ทำได้โดยลงรองพื้นสีเข้มตรงแถบขมับทั้ง 2 ข้าง เพื่อให้หน้าผากดูแคบลง จากนั้นก็ลงตรงส่วนกรามให้เป็นรูปเครื่องหมายมากกว่า (>) ตรงกรามซ้าย เครื่องหมายน้อยกว่า (<) ตรงกรามขวา และปีกจมูก จากนั้นลงไฮไลท์เตอร์ให้ทั่วหน้าผาก ใต้ตา คาง และสันจมูก แล้วใช้แปรงหรือนิ้วมือเกลี่ยให้เนียนให้เข้ากับใบหน้าก็สวยแล้ว

          ส่วนผู้หญิงที่มีใบหน้ารูปเพชร ทำได้โดยการลงรองพื้นสีเข้มตรงด้านข้างของหน้าทั้ง 2 ข้าง เพื่อปกปิดเหลี่ยมที่เด่นออกมา รวมทั้งที่ปีกจมูก จากนั้นลงไฮไลท์เตอร์ที่หน้าผาก สันจมูก และคาง แต่สำหรับผู้หญิงที่มีใบหน้าเหลี่ยมที่สุดแสนจะขัดใจ ก็สามารถแปลงโฉมให้หน้าเรียวสวยได้โดยการลงรองพื้นสีเข้มที่มุมหน้าผากแถบไรผมทั้ง 2 ข้าง และตรงกรามทั้ง 2 ข้าง จากนั้นใช้ไฮไลท์เตอร์ป้ายลงไปบนหน้าผาก ใต้ตา และคาง จากนั้นเบลนด์ให้เข้ากัน จะช่วยให้ใบหน้าคุณเรียวสวยได้อย่างน่าประหลาดใจเลยค่ะ









          เห็นไหมล่ะคะว่าเครื่องสำอางนั้นเป็นอุปกรณ์ที่มีมนต์วิเศษจริง ๆ แค่ศึกษาทริคการใช้สักนิดก็ไม่จำเป็นต้องไปพึ่งโบท็อกซ์ราคาแพงให้เปลืองเงินแล้ว ยังไงซะสาว ๆ ที่รักการแต่งหน้าต้องห้ามพลาดที่จะซื้อรองพื้นสีเข้ม และไฮไลท์เตอร์สีขาวมาติดโต๊ะเครื่องแป้งไว้ด้วยนะคะ รับรองว่าหน้าเรียวสวยเป๊ะเหมือนเซเลบเลยแหละ






26/5/57

3 เคล็ดลับเลือกครีมกันแดด พิชิตแดดให้อยู่หมัด




3 เคล็ดลับเลือกครีมกันแดด พิชิตแดดให้อยู่หมัด (emaginfo)

          หน้านี้คือซัมเมอร์ ซึ่งเป็นฤดูแห่งการท่องเที่ยวทะเลแบบปฏิเสธไม่ได้ ความต้องการ ความอยากในใจมันเหนือก็ความกลัวเสมอ แน่นอนว่าใครก็ต้องอยากไปทะเลใช่ไหมล่ะคะ แต่แหม แดดก็ไม่เอื้ออำนวยเสียแล้ว แล้วอย่างนี้จะทำอย่างไรดีล่ะ

          มีสาว ๆ หนุ่ม ๆ จำนวนไม่น้อยที่กลัวผิวเสีย กลัวดำ กลัวคล้ำด้วยแดดที่ช่วงนี้ร้อนแรงมากเป็นพิเศษ ซึ่งบางครั้งก็ทำให้เราคิดหนักเหมือนกัน เวลาที่จะออกไปไหนแต่ล่ะที ซึ่งวันนี้เรามีเคล็ดลับสู้แดดมาฝากกัน เพื่อที่ว่าเวลาจะออกแดด จะได้ไม่ต้องกังวลให้เสียอารมณ์เที่ยว

          สวยด้วยแดด แสบด้วยแดด

          เคยอ่านเจอ เคล็ดลับเรื่องผิวหนังของอาจารย์สาทิส อินทรกำแหง กูรูต้นตำรับชีวจิต เขาบอกว่า ถ้าคุณจะเปลี่ยนเป็นใช้วิธีรักษาผิวด้วยธรรมชาติ ขอให้พยายามเป็นมิตรกับแสงแดดให้มากที่สุดโดยเฉพาะแสงแดดตอนเช้าระหว่าง 6.00 น. – 7.00 น. เพราะจะช่วยสร้างวิตามินดีขึ้นในตัวของเรา ซึ่งมีส่วนช่วยสร้างฮอร์โมนเพศ ทำให้จิตใจและผิวพรรณผ่องใส

          ซึ่งแม้แดดจะทำให้ผิวสวย แต่อาจารย์สาทิสก็เตือนว่า ไม่ควรอาบแดด ยิ่งเป็นแสงแดดช่วงสายจนถึงบ่ายยิ่งอันตรายมาก อาจทำให้หนังลอกเป็นแผลเปื่อยและถ้าหากมีเชื้อสแตฟ (Staph) หรือสเตร็ป (Strep) (ซึ่งทำให้เป็นฝีหนองหรือไอเรื้อรัง) อยู่ในตัวด้วยแล้ว หนังลอกนั้นก็จะกลายเป็นแผลเปื่อยเรื้อรังบริเวณหน้าและแผ่นหลังเต็มตัว รักษาได้ยากเย็น หรืออาจกลายเป็นมะเร็งผิวหนังได้

          3 เคล็ดลับ เลือกครีมกันแดด

          ครีมกันแดดมันมีเยอะมากใช่ไหมคะ เชื่อว่าสาว ๆ ทั้งหลาย คงสับสนและเลือกไม่ถูกเหมือนกันว่า ครีมกันแดดมีเยอะแยะหลากหลายขนาดนี้ จะเลือกอย่างไรดี
          1. PA บล็อค UV

          ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า แสงแดดประกอบด้วยรังสีอัลตราไวโอเลตทั้งยูวีเอ และยูวีบี โดยยูวีเอสามารถทะลุผ่านชั้นผิวหนังได้ (แสงไฟหลอดนีออนก็มีรังสีชนิดนี้) เป็นตัวการทำให้ผิวหนังเกิดฝ้า กระ รวมถึงริ้วรอย ทำให้ผิวดูแก่ ส่วนยูวีบีเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวหมองคล้ำและไหม้ ซึ่งทั้งสองรังสีต่างก็มีส่วนก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้

          ดังนั้น อันดับแรกเลยคือเราจึงควรเลือกผลิตภัณฑ์กันแดดที่สามารถป้องกันได้ทั้งรังสียูวีเอ และยูวีบี ซึ่งจะมีตัวอักษร PA อยู่ โดยค่าป้องกันที่สูงสุดในปัจจุบันคือ PA+++ ค่ะ

          2. ใช้ SPF ให้เหมาะ

          นอกจากค่า PA ยังมีค่า SPF ที่คุ้นตากันเป็นอย่างดี ซึ่งค่านี้จะบอกถึงระยะเวลาที่จะช่วยปกป้องผิวหนังไม่ให้ไหม้ และหากจำแนกตามสถานการณ์เราก็ควรเลือกใช้ค่ากันแดดดังนี้

          ทำงานอยู่ในร่ม : SPF 15 PA+

          ทำงานหรือเล่นกีฬากลางแจ้ง : SPF 30 PA+++ และหากเป็นคนเหงื่อออกง่าย ควรเลือกชนิดทนเหงื่อ และทาซ้ำทุก 1-2 ชั่วโมง

          ไปเล่นน้ำทะเลหรือดำน้ำ : SPF มากกว่า 30 PA+++ เลือกชนิดกันน้ำและทาซ้ำทุก 80 นาที

          ส่วนเนื้อของผลิตภัณฑ์ หากผิวแห้งหรือผิวธรรมดาสามารถเลือกใช้แบบครีมได้ แต่ถ้าผิวมันควรเลือกใช้แบบโลชั่นหรือเจลมากกว่า เพราะหากใช้ครีมจะยิ่งทำให้หน้ามัน

          3. ให้เวลาครีม

          นอกจากการเลือกกันแดดให้ดี แล้วการทาก็สำคัญค่ะ ซึ่งจำไว้ว่าควรใช้ครีมกันแดดให้มากพอ คือ ทาทั่วตัว ไม่รู้สึกฝืดขณะทา และก็ต้องให้เวลากับครีม โดยทาก่อนออกแดดอย่างน้อย 20-30 นาที เพื่อให้ครีมซึมเข้าสู่ผิว และบล็อคผิวเราไว้ และหากออกแดดเป็นเวลานาน ๆ ก็ต้องหมั่นทาซ้ำทุก ๆ 1-2 ชั่่วโมง ไม่เช่นนั้นก็จะเปิดช่องให้แสงมาทำร้ายผิวเราได้

          เพียงแค่เลือกกันแดด และใช้อย่างเหมาะสม ก็พร้อมสู้แดดให้อยู่หมัดแล้ว และนอกจากนี้อย่าลืม กิน นอน พักผ่อน ออกกำลังกาย ให้เหมาะสมด้วย ผิวจะได้แข็งแรงสวยสมบูรณ์แบบไปอีกนานค่ะ



25/5/57

กำจัดขนด้วย 5 วิธีธรรมชาติ ผิวเนียนใส ไม่เจ็บตัว !




            การกำจัดขน เรียกได้ว่าเป็นวิธีที่สาว ๆ หลายคนให้ความสนใจกันมาก เพราะผู้หญิงบางคนเกิดมาพร้อมกับฮอร์โมนเพศชายในร่างกายสูง จนทำให้มีขนตามร่างกายแบบที่ไม่อยากจะมี ก็ผู้หญิงที่ผิวสวยเรียบเนียนไร้ขนดูสวยกว่าเป็นไหน ๆ เนอะ จึงทำให้ในปัจจุบันการเลเซอร์ขน หรือการใช้ครีมกำขัดขนเป็นที่นิยมกันมาก แต่หารู้ไม่ว่าวัตถุดิบใกล้ตัวหลายอย่างก็สามารถใช้กำจัดขนได้อย่างคาดไม่ถึง งั้นมาดูกันดีกว่าว่า 5 วิธีกำจัดขนจากวัตถุดิบธรรมชาติให้ผิวเนียนใสจะมีอะไรบ้าง ที่สำคัญวิธีเหล่านี้ยังไม่ทำให้เจ็บตัวเหมือนไปเลเซอร์อีกด้วย

          นวดน้ำมันปิดตายรูขุมขน

          การนวดน้ำมัน ไม่เพียงแค่จะช่วยให้คุณสาว ๆ รีแลกซ์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ก็ยังจะช่วยให้ขนบนร่างกายอ่อนนุ่ม และมีเส้นเล็กลง ยิ่งคุณนวดตัวด้วยน้ำมันบ่อย ๆ ก็จะยิ่งทำให้น้ำมันช่วยเข้าไปปิดรูขุมขนทีละเล็กละน้อยมากขึ้นจนขนไม่สามารถเจริญเติบโตได้อีก ส่วนน้ำมันนวดตัวที่ควรใช้ คือ น้ำมันหอมระเหย หรือน้ำมันละหุ่ง เพื่อคงสภาพให้ผิวชุ่มชื้น ในขณะที่ก็ช่วยกำจัดขนที่ไม่พึงประสงค์ออกไปด้วย

          กำจัดขนด้วยวัตถุดิบก้นครัว
          วัตถุดิบก้นครัวที่ไม่น่าเชื่อว่าจะนำมากำจัดขนได้เหมือนกัน อย่างแป้งที่ได้มากจาถั่วลูกไก่ (chicken pea flour หรือ Gram flour) นำมาผสมรวมกับโยเกิร์ต และน้ำมันมะกอก หรือโจโจบาออยล์ 3-4 หยด จากนั้นป้ายลงไปให้ทั่วร่างกายของคุณ เน้นหนักที่ตรงส่วนที่มีขนอันไม่พึงประสงค์ จากนั้นรอให้แห้ง แล้วจึงขัดออกด้วยที่ใยขัดผิวต่าง ๆ ผลลัพธ์จะไม่เห็นผลทันที จึงควรทำต่อเนื่องทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง จะช่วยให้ขนค่อย ๆ หลุดจนหมดเกลี้ยง

          ผสมมะนาวน้ำผึ้งกำจัดขนหน้า

          วัตถุดิบจากธรรมชาติสุดเบสิกที่ช่วยบำรุงผิวอย่างมะนาว และน้ำผึ้ง ก็สามารถนำมาใช้เพื่อกำจัดขนบนใบหน้าได้โดยที่ช่วยบำรุงหน้าไปในตัวด้วย เพียงแค่ผสมน้ำผึ้ง 4 ช้อนชา กับน้ำมะนาว 1 ลูก เมื่อผสมเรียบร้อยแล้ว นำมาทาตรงส่วนที่ต้องการกำจัดขน จากนั้นนวดวนประมาณ 15 นาที เสร็จแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำซ้ำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งไปเรื่อย ๆ จนกว่าขนจะหลุดหมดเกลี้ยง เพียงเท่านี้หน้าของคุณก็จะสะอาดกระจ่างใสไร้ขนมากวนใจแล้วค่ะ

          แว็กซ์ขนด้วยน้ำตาล

          เชื่อว่าทุกบ้านต้องมีวัตถุดิบปรุงอาหารชนิดนี้ติดครัวอยู่แล้ว ฉะนั้นจึงไม่ต้องไปเสียเงินซื้อครีมกำจัดขน หรือไปเลเซอร์ขนราคาหลายหมื่นเลย เพราะเพียงเทน้ำเปล่าครึ่งถ้วย น้ำตาล 4 ช้อนชา และน้ำมะนาว 1 ช้อนชา ลงไปบนกระทะ จากนั้นนำไปวางบนเตาแก๊สที่ใช้ไฟอุ่น  ๆ แล้วคนให้ส่วนผสมเข้ากันเป็นเนื้อเดียว รอจนงวด ปิดแก๊ส แล้วทิ้งไว้ให้อุ่นสักนิดจึงค่อยนำมาทาตรงส่วนที่มีขน แล้วนำผ้าฝ้ายมาปิดทับเอาไว้ รอ 2 นาที แล้วดึงผ้าออก ให้ทำต่อเนื่องนาน 6 สัปดาห์ แล้วขนที่มีจะหลุดหายไปหมดเลยค่ะ

          แป้งเตรียมอบขนมปัง

          สำหรับบ้านใครที่ชอบทำขนมปัง หรือเบเกอรี่ด้วยตัวเอง ก็คงจะใช้วิธีนี้ได้ เพราะต้องใช้แป้งโดที่เตรียมจะนำไปอบเป็นขนมปัง มาใช้กำจัดขน แต่วิธีนี้มักใช้กับเด็กอ่อน เพื่อกำจัดขนอ่อน ๆ ออก หรือช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของขนได้ในเด็กอ่อนมากกว่า เพียงใช้แป้งโดไปชุบน้ำมัน แล้วนวดลงไปทั่วทั้งร่างกายของเด็ก อาจพูดได้ว่าวิธีนี้่เป็นการเริ่มต้นที่ดีสู่ผิวสวยของลูกน้อยของคุณ

          นอกจากนี้ คุณยังสามารถดื่มชาสเปียร์มินต์เพื่อลดฮอร์โมนเพศชายลงได้ จึงจะทำให้ขนตามร่างกายไม่เจริญเติบโตขึ้นกว่าเดิม ยังไงก็ลองทำวิธีธรรมชาติเหล่านี้ดูก่อนนะคะ เพราะเชื่อว่าอาจใช้เวลานานกว่าการเลเซอร์ราคาแพงไปเสียหน่อย แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาก็เหมือนกันในราคาที่จะช่วยคุณเซฟเงินได้เพียบเลยค่ะ



8 วิธี เพื่อสุขภาพผิวเปล่งปลั่ง




 8 วิธี เพื่อสุขภาพผิวเปล่งปลั่ง (emaginfo)

          ใคร ๆ ก็ปรารถนาที่จะมีสุขภาพผิวที่ดี ไม่ว่าหญิงสาวหรือชายหนุ่ม แม้แต่วัยสูงอายุ ก็ยังอยากจะมีผิวพรรณที่เปล่งปลั่ง มีน้ำ มีนวล ซึ่งจะต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ จึงจะมีผิวสวยใสและเนียนนุ่มน่าสัมผัส

          แต่แดดเมืองไทย ยิ่งนับวันจะร้อนแรงมากขึ้นทุกขณะ แม้แต่จะย่างเท้าออกจากบ้าน ยังรู้สึกได้ถึงความร้อนของแสงแดด ซึ่งจำเป็นจะต้องใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสารป้องกันยูวี  แต่กระนั้น สาว ๆ หลายคนก็ยังบ่นกันถึงริ้วรอยที่เกิดขึ้นจากการเผชิญหน้ากับแสงแดด แม้ว่าจะมีตัวช่วยในการป้องกันแสงแดดไว้แล้วก็ตาม

          วันนี้เราลองมาดูวิธีรักษาสุขภาพผิว ทั้งผิวหน้าและผิวกาย ทำอย่างไรจึงไม่หมองคล้ำ และมีวิธีป้องกันอย่างไรที่จะทำให้ผิวของเรายังคงเปล่งปลั่งสดชื่นอยู่ โดยไม่ให้ริ้วรอยมากล้ำกลาย แม้จะผ่านวัยไปจนถึงเลข 4 และเลข 5 แล้วก็ตาม ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับการดูแลเอาใจใส่ผิวที่ดีอย่างสม่ำเสมอ ตามขั้นตอนต่าง ๆ ดังนี้ค่ะ

          1. การเลือกรับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ และต้องมีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะในเรื่องของการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ดังนั้น เราจึงควรเลือกรับประทานผลไม้สดที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ เช่น เบอรี ทับทิม ส้มโอ อโวคาโด ฯลฯ

          2. หลีกเลี่ยงความเครียดต่าง ๆ ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้ผิวพรรณของเราเกิดริ้วรอย จากการขมวดคิ้ว มิหนำซ้ำยังเกิดรอยตีนกา รอยยับ รอยย่นบนใบหน้าตามมาเป็นขบวน ซึ่งริ้วรอยต่าง ๆ เกิดจากสาเหตุทางอ้อมที่มาจากความเครียด ทำให้ระดับฮอร์โมนลดลง ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำอย่างเห็นได้ชัด

          3. ดื่มน้ำสะอาดในปริมาณที่มากพอ เพราะร่างกายของคนเราประกอบไปด้วยน้ำถึง 70% ในแต่ละวันเราจะสูญเสียน้ำผ่านการปัสสาวะ และทางเหงื่อ ดังนั้น จึงควรดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ อย่างน้อย 2 ลิตร/วัน เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย จะช่วยรักษาความชุ่มชื่นของผิวหนังได้เป็นอย่างดี



            4. งดการใช้ยาและสารเคมีต่าง ๆ รวมทั้งการสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อีกด้วย สิ่งเหล่านี้จะมีผลต่อสุขภาพผิวของเราโดยตรง จะทำให้ผิวพรรณเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันสมควร

            5. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมต่าง ๆ ที่จะสร้างริ้วรอยบนผิวหน้า อย่างเช่น บางคนชอบหัวเราะตาหยี ก็จะมีผลต่อสุขภาพผิว ทำให้เกิดรอยตีนกาได้ หรือพฤติกรรมการนอน หลาย ๆ คนชอบนอนทับหน้าข้างใดข้างหนึ่ง หรือนอนคว่ำ ทำให้ผิวหน้าส่วนที่ถูกกดทับเกิดริ้วรอยฝังลึกโดยง่าย แม้แต่การตากแดดเป็นเวลานาน ๆ โดยไม่มีสิ่งป้องกัน ก็จะทำให้ผิวหน้า และผิวส่วนที่ถูกแดด เกิดเป็นฝ้า กระ และริ้วรอยต่าง ๆ ตามมา เนื่องจากแสงแดดจะทำลายความชุ่มชื่นของผิวหนัง จนเกิดผิวเสื่อมสภาพ ขาดความยืดหยุ่น และกลายเป็นผิวหมองคล้ำ ไม่น่าดู

            6. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอกจากจะทำให้สุขภาพแข็งแรงแล้ว สุขภาพผิวยังได้รับการฟื้นฟูไปพร้อม ๆ กันอีกด้วย การออกกำลังกายนี้ ไม่จำเป็นจะต้องไปออกกำลังกายที่สถานฟิตเนส แต่เป็นการออกกำลังกายเบา ๆ ที่บ้าน ใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ก็จะมีสุขภาพที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 

            7. การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ โดยทั่วไป สำหรับผู้ที่มีสุขภาพดี มักจะเข้านอนในช่วงเวลาประมาณสี่ทุ่ม เพราะเป็นเวลาที่ร่างกายต้องการการพักผ่อน หลังจากที่ใช้พลังงานไปตลอดทั้งวันแล้ว

            8. การอาบน้ำให้สะอาดก่อนเข้านอน จะช่วยให้ร่างกายเกิดความสบาย รวมไปถึงจิตใจที่สดชื่น จะทำให้นอนหลับได้เป็นเวลายาวนานติดต่อกันตลอดทั้งคืน ตื่นขึ้นมาทุกเช้า ก็จะพบว่าเรามีใบหน้าที่เปล่งปลั่ง สดใส จากการที่ได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอนั่นเอง



           การดูแลสุขภาพผิว ยังรวมถึง การนวด เพื่อคลายความตึงเครียด นอกจากจะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ให้บรรเทาจากอาการเมื่อยล้า ตึงตามแขนขาแล้ว ยังเป็นการช่วยให้โลหิตในร่างกายของเราไหลเวียนดีขึ้น ส่งผลให้ผิวพรรณของเรามีเลือดฝาด มีน้ำ มีนวล และด้วยเหตุที่ว่าเมืองไทยของเรา เป็นเมืองที่มีแสงแดดแผดเผา ร้อนแรงแทบจะตลอดทั้งวัน ทุกครั้งที่ต้องออกจากบ้าน ควรทาครีมกันแดดที่ป้องกันยูวี และควรจะมีร่มที่ป้องกันยูวี ปกป้องแสงแดดไม่ให้มากระทบผิวโดยตรงอีกด้วย 



อัศจรรย์ 3 เทคนิค แก้ริมฝีปากดำ




อัศจรรย์ 3 เทคนิค แก้ริมฝีปากดำ (emaginfo)

          สาว ๆ หนุ่ม ๆ หลายคนมีปัญหาน่ากลุ้ม นั่นคือ ริมฝีปากดำคล้ำ แล้วก็หาทางแก้ไม่ได้ เวลาไปไหนมาไหนก็รู้สึกไม่มั่นใจ เราจึงนำวิธีแก้ปากดำ ด้วยวิธีง่าย ๆ ทำได้สบาย ๆ ที่บ้านมาฝาก

          อาการริมฝีปากดำคล้ำ อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น จากการสูบบุหรี่ แพ้ลิปสติก แพ้ยาสีฟัน หรือเกิดจากกรรมพันธุ์ หากคุณรู้สาเหตุแล้ว คุณสามารถแก้ไขได้จากต้นเหตุ เช่น หากแพ้ลิปสติก หรือยาสีฟัน ก็ให้หยุดใช้ลิปสติก และยาสีฟันที่เราแพ้

          หากริมฝีปากดำคล้ำอันเกิดจากการสูบบุหรี่ ก็ควรเลิกสูบบุหรี่แล้วค่อย ๆ หันมาบำรุงริมฝีปากให้กลับมาชุ่มชื้น มีสีจางลง หรือเป็นสีแดงอมชมพู ซึ่งวิธีการทำให้ริมฝีปากหายดำคล้ำนั้น ก็มีหลายวิธี ตั้งแต่วิธีที่ต้องพึ่งแพทย์ ใช้ยาหรือเครื่องสำอาง (เช่น ลิปบำรุงริมฝีปาก) ไปจนถึงวิธีธรรมชาติที่ทำเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน

          วิธีแก้ริมฝีปากดำ

          แต่ละวิธีเป็นการรวบรวมเอาจากประสบการณ์ของคนที่เคยใช้แล้วได้ผลมาแล้ว แต่ก่อนอื่น เราต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า สาเหตุของอาการปากดำ สภาพผิวและริมฝีปาก รวมทั้งอาการแพ้สิ่งต่าง ๆ ของแต่ละคนนั้น แตกต่างกัน บางวิธีจึงอาจใช้ได้ผลกับบางคน แต่อาจใช้ไม่ได้ผลกับบางคนก็เป็นได้ ให้เราลองหาวิธีที่เหมาะกับเราที่สุดดูนะคะ

          1. ดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ 

          ฟังดูง่ายเกินไปใช่มั้ยคะ แต่มีผลจริงค่ะ การดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ (แต่ให้ใช้วิธี ค่อย ๆ จิบน้ำไปเรื่อย ๆ ทีละนิดระหว่างวัน) จะช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื่น ใครที่หน้าหมองก็กลับมาใสได้ ใครที่ใต้ตาคล้ำก็อาการดีขึ้นได้ ใครที่ปากดำก็อาการดีขึ้นได้เช่นกัน ให้ใช้วิธีนี้ควบคู่กับวิธีอื่น ๆ ด้วย รับรองว่าสภาพผิวและปากจะดีขึ้นแน่นอนค่ะ

          2. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำให้ปากดำ

          โดยส่วนใหญ่แล้วสาเหตุของปากดำคล้ำ มักเกิดการพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของเราเองทั้งสิ้น เช่น การเลียริมฝีปาก การสูบบุหรี่ แพ้ยาสีฟัน หรือแพ้ลิปสติก เป็นต้น หากสังเกตแล้วพบว่าแพ้ผลิตภัณฑ์ใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับปากให้หยุดหรือเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้ออื่นแทน

          3. สครับปาก

          เป็นการขัดเซลล์ผิวเก่าที่หมองคล้ำให้หลุดลอกไป และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก โดยนำลิปบาล์ม หรือวาสลีน มาผสมกับน้ำผึ้ง และน้ำตาลทราย ให้ได้ความเข้มข้นพอเหมาะ แล้วนำมาถูหรือนวดริมฝีปากสัก 1-2 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น 


23/5/57

ล้างหน้าตามแนวขน..ลดปัญหาสิว



      ปัญหาน่าหนักใจสำหรับผู้หญิง เราคือเรื่องสิว รู้ไหมว่าการล้างหน้าตามแนวโพรงขน ช่วยลดต้นเหตุสิว พิสูจน์แล้วว่าจริงแท้แน่นอน! ลาก่อนสิวอุดตัน สิวอักเสบ ที่ขยันขึ้นกันจนน่าเจ็บใจ ถ้าไม่อยากให้ปัญหาสิวถามหา ต้องฝึกล้างหน้ากันใหม่แล้ว

      ใน 365 วัน เราต้องล้างหน้า ไปเป็นจำนวนกี่ครั้งเคยนับกันบ้างหรือเปล่า? ดังนั้นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่เหมาะสมกับสภาพผิวก็สำคัญ ไม่แพ้กัน ดังนั้นมีข้อมูลอะไรดี ๆ เราก็อยากบอกต่อ มามะ! คว้าโฟมล้างหน้าคู่ใจ แล้วพุ่งไปที่อ่างล้างหน้า เปิดฝา บีบผลิตภัณฑ์ออกมา แล้วหันหน้ามาดูวิธีล้างหน้าแบบบอกลาสิวกันเถอะ!

      1. เริ่มจากหน้าผาก ให้ล้างตามแนวนอนโดยแยกบริเวณกึ่งกลางศีรษะ โดยด้านซ้ายให้ล้างปัดไปทางซ้าย ด้านขวาให้ล้างปัดไปทางขวา
      2. แก้ม ในบริเวณนี้ให้ล้างโดยลูบลงตามแนวขน
      3. คาง ในส่วนนี้ให้ล้างลูบลงเช่นกัน 


      การล้างหน้าในลักษณะนี้ จะทำให้โพรงขนถูกรบกวนน้อยที่สุด ริ้วรอยก็จะเกิดน้อยตามไปด้วย ช่วยไม่ให้เกิดการอุดตันจนเกิดสิวกวนใจ และการล้างหน้าที่ถูกต้องจะช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นอีกด้วย มาล้างหน้าตามแนวโพรงขนกันเถอะ แจ่ม!!



20 วิธีทำให้ผิวขาว สวย และเนียนมากยิ่งขึ้น



          ผู้หญิง หลายคนไม่มั่นใจในความสวยของตัวเอง และสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้หญิงดูดีขึ้นนั่นคือการมีผิวขาว เพราะการมีผิวขาวจะช่วยเพิ่มความมั่นใจและทำให้เราดูดีขึ้น

          วิธีทำให้ผิวขาว อาจจะมีหลายวิธีให้คุณผู้หญิงได้ลองเลือกมาใช้กัน แต่ที่แน่ๆ คุณผู้หญิง ไม่มีทางจะให้ผิวของคุณนั้นมีริ้วรอยและหมองคล้ำแน่นอนใช่ไหมล่ะค่ะ ซึ่งเดี๋ยวนี้มีวิวัฒนาการจากความงามมากมายให้คุณสาวๆ ได้เลือกใช้กัน ซึ่งบางทีก็เห็นผลบ้าง ไม่เห็นผลบ้าง สิ่งสำคัญคือคุณต้องเสียเงินทองมากมายเพื่อที่จะให้ตัวเองนั้นมีผิวขาว ไม่มีริ้วรอย หรือแม้นแต่ความหมองคล้ำต่างๆ คุณเองก็อาจจะต้องจ่ายเงินไปจำนวนมากๆ เพื่อให้ตัวเองมีผิวที่ขาวขึ้น พอให้ฟังแบบนี้แล้วคุณผู้หญิงคงคิดท้อใจขึ้นมาทันทีใช่ไหมล่ะค่ะ แต่อย่างเพิ่งท้อใจไปเลยค่ะ วันนี้ 108 health เรามีวิธีทำให้ผิวขาวได้โดยไม่ต้องเสียเงินเป็นจำนวนมากมาบอกคุณผู้หญิงกันค่ะ งั้นเราไปดูวิธีทำให้ผิวขาว แบบยาวนานกันดีกว่า


          1. วิธีทำให้ผิวขาว โดย การขัดผิว (Exfoliating)
          การขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปจากผิวหน้า รากศัพท์ของมันมาจากคำว่า "foliage" ซึ่งแปลว่าใบพืช เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าอิพิเดอร์มิส (Epidermis) หรือผิวชั้นนอกเกิดขึ้นมาโดยผ่านกระบวนการสร้างจนมาเติบโตเต็มที่อยู่ชั้นบน สุดของผิวหนัง โดยเซลล์ที่อยู่ล่างสุดของชั้นนี้ที่เรียกว่า เซลล์แรกเริ่ม (Basal Cells) จะสร้างเซลล์ลูกซึ่งจะเคลื่อนตัวขึ้นไปจนกลายเป็นผิวชั้นนอกเซลล์เหล่านี้มีหน้าที่เป็นตัวกั้นระหว่างร่างกายเรากับสิ่งแวดล้อมภายนอก ทั้งยังช่วยเก็บรักษาความชุ่มชื้นภายในและป้องกันสิ่งแปลกปลอมที่จะเข้าสู่ ผิว หลังจากเซลล์ใหม่ที่แข็งแรงกว่า อยู่ประจำที่บนชั้นผิวหนังแล้ว เซลล์ผิวเก่าก็จะหลุดลอกออกโดยธรรมชาติ หากยังตกค้างอยู่บนผิวก็จะทำให้ผิวดูไม่มีชีวิตชีวา และดูเป็นสะเก็ดการขัดหน้าจึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการกำจัดเซลล์เก่าที่บดบังความสดใสนั่นเอง
    
          2.วิธีทำให้ผิวขาว โดย  ผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับการขัดผิว
          ได้แก่ ฟองน้ำขัดรูปแบบต่างๆ เช่น ใยบวบ หรือครีม เช่น เอเอชเอ แม้กระทั่งผ้าเช็ดตัวก็สามารถใช้ขัดผิวได้ การขัดผิวอย่างนุ่มนวลจะช่วยให้ผิวของคุณดูชุ่มชื่นและใสกระจ่างมากยิ่งขึ้น

    
          3.วิธีทำให้ผิวขาว โดย ควรหลีกเลี่ยงการขัดผิวด้วยวิธีรุนแรง
          หากขัดมากเกินไป ก็อาจรบกวนหน้าที่ในการสกัดกั้นสิ่งแปลกปลอมของผิว รวมถึงทำให้ผิวอ่อนไหวมากขึ้นจนเกิดความแห้งกร้าน ไหม้แดด หรือปัญหาอื่นๆ ได้ง่าย

    
          4.วิธีทำให้ผิวขาว โดย กำจัดออกไป
          ผิวมีหม่นหมอง ดูแล้วมีความมัน ผิวจะเกิดการอุดตันและหายใจไม่ได้  หรือบางทีอาจทำให้เกิดสิวอุดตัน รวมทั้งทำให้กระบวนการไหลเวียนของโลหิตใต้ผิวไม่ดี ทำให้ของเสียเกิดการสะสมตัว เป็นปัญหาที่ทำให้ผิวหมองคล้ำได้ง่าย

    
          5.วิธีทำให้ผิวขาว โดย ถ้าต้องการขัดผิวหน้า
          คุณก็ควรทำอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง และขัดผิวกายเดือนละ 1-2 ครั้ง แต่ถ้าใครมีเซลลูไลท์ แนะนำให้ขัดผิวบริเวณส่วนนั้นทุกวัน โดยใช้ถุงมือผ้าที่ใช้สำหรับอาบน้ำนวดขัด เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและกำจัดของเสียออกทางระบบน้ำเหลือง



          6.วิธีทำให้ผิวขาว โดย การขัดผิวที่ถูกต้อง
          สิ่งที่ต้องมีคือ ฟองน้ำสำหรับขัดผิวกาย ถุงมือผ้า อาบน้ำหรือใยบวบ และผลิตภัณฑ์ขัดผิว เลือกให้เหมาะกับสภาพผิว ถ้าไม่แน่ใจลองปรึกษาคนขายดู

      
          7.วิธีทำให้ผิวขาว โดย  เริ่มต้นที่ทำผิวเปียก
          นำผลิตภัณฑ์ขัดผิวเทใส่ใยบวบ ฟองน้ำ หรือถุงมือ แล้วทาลงบนผิวเบาๆ นวดผลิตภัณฑ์บนผิวด้วยการวนมือเป็นลักษณะวงกลมเบาๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นระบบไหลเวียน ใช้น้ำล้างออกให้สะอาด ซับให้แห้ง แล้วทาครีมบำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้นในขณะที่ผิวยังชื้น

    
          8.วิธีทำให้ผิวขาว โดย  ผลิตภัณฑ์สำหรับขัดผิวควรเลือกที่เป็นครีมหรือเจล
           เนื้อครีมควรมีลักษณะเป็น เม็ดกลม เพื่อปกป้องผิวจากการระคายเคือง หรือเป็นแผลถลอก ขณะที่ขัดนวดผิวบริเวณนั้นควรมีความชื้นพอหมาด แล้วล้างออกด้วยน้ำมากๆ

    
          9.วิธีทำให้ผิวขาว โดย ใยบวบ หรือใยขัดธรรมชาติ
           เป็นอุปกรณ์ขัดผิวที่มีประสิทธิภาพมาก แต่ถ้าออกแรงขัดมากเกินไป อาจทำให้แสบผิวได้ เพราะใยบวบ เหล่านี้มีลักษณะสาก และหยาบ เวลาขัด จึงควรขัดเบาๆ ไปทั่วร่างกายขณะอาบน้ำ และเมื่อใช้เสร็จแล้ว ควรล้างทำความสะอาดและผึ่งให้แห้ง

    
          10.วิธีทำให้ผิวขาว โดย การใช้ผ้าสำหรับถูตัว
            หรือจะเป็นฟองน้ำถูตัวเวลาอาบน้ำ ก็เป็นอีกวิธีการหนึ่งของการขัดผิว โดยใช้ร่วมกับสบู่ หรือเจลอาบน้ำก็ได้



           11.วิธีทำให้ผิวขาว โดย เลียนแบบจากสปาชั้นนำ
            โดยการใส่น้ำให้เต็มอ่าง เติมเกลือเม็ดลงไป และเวลาที่ลงไปแช่ตัวอยู่ในอ่างให้ใช้เกลือ 1 กำมือ ขัดไปมาเบาๆ ให้ทั่วตัว และล้างตัวด้วยน้ำสะอาด

    
          12.วิธีทำให้ผิวขาว โดย แปรงผิวสามารถใช้ได้ดี
          โดยขัดเบาๆ บนผิวที่แห้งก่อนอาบน้ำ เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดไป หรือจะใช้ในขณะอาบน้ำร่วมกับสบู่ หรือเจลอาบน้ำก็ได้

    
          13.วิธีทำให้ผิวขาว โดย การปรนนิบัติผิวให้นุ่มนวลขึ้นภายในระยะเวลาอันสั้น
           ควรเริ่มด้วยการใช้น้ำมันนวดผิวก่อนอาบน้ำ จากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนของการขัดผิว เพื่อช่วยปรนนิบัติ ผิวสะอาดหมดจด สวยเนียนสดใสไปอีกนานๆ

    
          14.วิธีทำให้ผิวขาว โดย เราสามารถทำครีมขัดผิวใช้เอง
           โดยการใช้เกลือเม็ดเล็กๆ ผสมกับน้ำมันทาผิว (Baby Oil) หรือน้ำมันมะกอกทาทั่วตัวทิ้งไว้ประมาณ 1 นาที นวดให้ทั่ว แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

    
          15.วิธีทำให้ผิวขาว โดย สครับสำเร็จรูปมักมีลักษณะคล้ายๆ กัน
           คือมีบีด (bead) ซึ่งอาจทำจากเกลือ, น้ำตาล, อัลมอนด์ ฯลฯ ช่วยในการขัดผิว มีน้ำมันช่วยหล่อลื่นมีกลิ่นหอม อีกทั้งมีส่วนประกอบในการบำรุงผิวอีกหลายชนิด



            16.วิธีทำให้ผิวขาว โดย เราสามารถทำสครับใช้เองง่ายๆ
           ด้วยการใช้ผักผลไม้ชนิดที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ในตัวเดียว คือมีผิวสัมผัสที่ให้ความหยาบเล็กน้อย แต่ต้องไม่ถึงกับให้ผิวระคายเคือง มีน้ำช่วยหล่อลื่นและมีวิตามินตรงกับความต้องการ

    
            17.วิธีทำให้ผิวขาว โดย มะขามเปียก,สับปะรด
           ทั้ง 2 ชนิดนี้มีเส้นใยช่วยขจัดขี้ไคล มีความเป็นกรด ช่วยทำความสะอาดผิว ทำให้ผิวขาวใส มีวิตามินซึ่งเป็นแอนติออกซิแดนท์สูง มะละกอมีเอนไซม์อ่อนๆ ช่วยขจัดเซลล์ที่ตายแล้ว วิตามินสูง แต่เนื้อมีความละเอียดมาก มะนาวเป็นกรด เหมาะใช้กับผิวส่วนที่หยาบกร้าน เช่น ข้อศอก, ส้นเท้านุ่มขึ้น แตงกวาช่วยให้ผิวสดชื่น มะพร้าวขูดมีน้ำมันช่วยบำรุงผิว แต่ถ้าคุณเป็นคนผิวแห้งมากต้องระวัง ลองใช้ส้มเช้งมีคุณสมบัติ คล้ายสองชนิดแรก แต่ไม่เป็นกรดมาก

    
           18.วิธีทำให้ผิวขาว โดย เลือกสิ่งที่อยู่ในครัวเรือนและมีโอกาสแพ้น้อยที่สุด
           เช่นเกลือมีฤทธิ์ช่วยสมานผิว, ข้าวสารบดละเอียดช่วยให้ผิวขาว, น้ำตาลทรายมีทั้งความสากและความหนืดอยู่ในตัวเอง, งาเนื้อไม่หยาบเกินไป มีน้ำมันอยู่ในตัวช่วยลดความระคายเคือง และกาแฟกระตุ้นให้ร่างกายขับสารพิษ สิ่งที่ควรระวังคือบีดบางชนิดมีเหลี่ยมคม จึงต้องนำมาบดให้ละเอียดก่อนนอกจากนั้นอาจเพิ่มน้ำมันลงไปเพื่อช่วยลดการ เสียดสี

    
           19.วิธีทำให้ผิวขาว โดย  การใช้น้ำมัน
           จุดประสงค์สำคัญคือช่วยหล่อลื่น และเป็นตัวช่วยลดความเข้มข้นของกรดสำหรับคนผิวแห้งเช่น ถ้าคุณต้องการใช้สับปะรดขัดผิว แต่เกรงว่าผิวจะแห้ง เกินไป การเพิ่มส่วนผสมน้ำมันก็เป็นทางเลือกที่ดีเพราะนอกจากช่วยให้ลื่นแล้ว น้ำมันยังช่วยเคลือบผิวไม่ให้มีการสูญเสียน้ำมากเกินไป

           20.วิธีทำให้ผิวขาว โดย เพิ่มความหอมรื่นรมย์
           สามารถเสริมกลิ่นด้วยการหยดน้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่ชอบลงไป 2-3 หยด ซึ่งต้องเป็นน้ำมันหอมระเหยสำหรับนวดตัว ซึ่งมักผสมที่ความเข้มข้นประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่สำหรับใส่เตาเผาน้ำมันเพราะน้ำมันหอมระเหย เข้มข้นจะทำให้ผิวไหม้ได้




Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More

 
Design by Free WordPress Themes | Bloggerized by Lasantha - Premium Blogger Themes | Facebook Themes