แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ลดต้นขา แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ลดต้นขา แสดงบทความทั้งหมด

27/5/57

5 สุดยอดผลไม้ลดความอ้วน

           ในโลกของการลดความอ้วนการกินผลไม้บางทีก็อาจได้รับโทษมากกว่าประโยชน์เพราะในผลไม้มีน้ำตาล โดยเฉพาะผลไม้ที่สุกงอม แต่สารอาหารหลายชนิดที่อยู่ในผลไม้ก็มีประโยชน์กับสุขภาพของคุณแถมยังช่วยให้คุณอิ่มนานกว่าอาหารทางเลือกอื่นๆ อีกมากมาย
           การเลือกกินผลไม้ลดความอ้วนต้องระมัดระวังโดยเฉพาะคนที่ต้องการกระชับหุ่นให้สวย ดังนั้น http://www.icareyour.net/ เลยรวบรวมคำแนะนำในการเลือกกิน ผลไม้ลดความอ้วน มาฝากเพื่อนๆ

ผลไม้ลดความอ้วน#1 – สตรอเบอร์รี่



           การกินผลไม้ในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายลดไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะมันสามารถควบคุมปริมาณแคลอรีแถมยังให้วิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายด้วย สตรอเบอร์รี่มีแคลอรีเพียง 50 แคลอรี และ มีน้ำตาล 7 กรัม แต่มีเส้นใยอาหารถึง 3 กรัม แต่สิ่งที่สุดยอดเกี่ยวกับสตรอเบอร์รี่(และผลเบอร์รี่ทั้งหมด) คือ มันตอบสนองความต้องการของหวานและน้ำตาลของคุณได้เป็นอย่างดี แถมยังมีสารอาหารที่น่าประทับใจอื่นๆ อีกมากมาย

ผลไม้ลดความอ้วน#2 – เบอร์รี่



           ผลเบอร์รี่เช่น บูลูเบอร์รี่, แบล็กเบอร์รี่และราสเบอร์รี่ เต็มไปด้วนสารอาหารและมีน้ำตาลน้อยกว่าผลไม้ชนิดอื่นๆ เช่นมะม่วงหรือกล้วย นั้นคือเหตุผลที่ผลเบอร์รี่มักถูกยกย่องให้เป็นผลไม้เผาผลาญไขมันที่ดี ผลเบอร์รี่เป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางอาหารสูงและมีแคลอรีต่ำแถมยังหวานแบบมีประโยชน์ เส้นใยในผลเบอร์รี่ช่วยให้อิ่มเร็ว อิ่มนาน และยังมีวิตามินแร่ธาตุ สารต่อต้านอนุมูลอิสระ ดังนั้นอย่าลืมใส่ผลเบอร์รี่ลงในตารางอาหารของคุณด้วย

ผลไม้ลดความอ้วน#3 – อะโวคาโด



           หลายคนอาจไม่รู้จักผลไม้ชนิดนี้ อะโวคาโด คือผลไม้ชนิดหนึ่ง เป็นที่นิยมในแถบทวีปอเมริกาและยุโรป เพราะมันมีสารอาหารสูงและหลากหลายมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่บางคนอาจไม่ชอบ เพราะมันไม่หวาน แถมมีไขมันสูง กินแล้วอาจอ้วนได้ แต่อย่าพึ่งเข้าใจผิด กรดไขมันในอะโวคาโดเป็ดกรดไขมันที่ดี คืออะโวคาโดมันมีกรดไมมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว(Monounsaturated fatty acids) ถึง 70เปอร์เซ็นต์ มีคุณสมบัติช่วยลดไขมันร้ายในหลอดเลือด ทำให้โอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ และหัวใจวาย ลดลง

ผลไม้ลดความอ้วน#4 – เกรปฟรุต



           ผลไม้ที่ดีที่สุดในการลดไขมัน ช่วยให้คุณกินแคลอรีน้อยกว่าที่คุณเผาออกไป ตัวอย่างเช่น คุณกินเกรปฟรุตครึ่งลูกก่อนมื้ออาหาร จะช่วยให้น้ำหนักคุณลดลงอย่างเหลือเชื่อ นักวิจัยในสหรัฐอเมริกาพบว่า การกินเกรปฟุตครึ่งลูกก่อนมื้ออาหารนั้น จะช่วยให้คุณลดแคลอรีได้ถึง 150 แคลอรีต่อวัน แถมเกรปฟรุตครึ่งลูกมีแคลอรีอยู่เพียง 39 แคลอรีเอง ดังนั้นคนที่กำลังลดความอ้วน อย่าลืมที่จะใส่เกรปฟรุตลงในตารางอาหารของคุณด้วย

ผลไม้ลดความอ้วน#5 – แอปเปิล


           ราชาของผลไม้ลดความอ้วน คงหนีไม่ผลแอปเปิล เขียวๆ แดงๆ แอปเปิลมีเส้นใยอาหารมาก ช่วยเวลากินเข้าไปจะช่วยให้อิ่มนาน ช่วยให้ร่างกายไม่รู้สึกหิว นอกจากนี้แอปเปิล 1 ลูก ยังมีแคลอรีเพียงแค่ 59 แคลอรี แถมยังมีวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกมากมาย โดยเฉพาะ เพกติน มีคุณสมบัติพองตัว มันจึงเพิ่มกากใยอาหาร ทำให้ระบบขับถ่ายดี ช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ ช่วยดักจับคอเลสเตอรอลในร่างกาย แถมยังช่วยกำจัดสารพิษในร่างกายอีกด้วย
           จริงๆ แล้วผลไม้ทั้งหมดมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ควรกินเลือกผลไม้ที่ส่งผลดีต่อร่างกายของคุณ ใครที่มี ผลไม้ลดความอ้วน ดีๆ นอกเหนือจากนี้สามารถแชร์มาให้กับเราได้เลยเพื่อให้เป็นอีกทางเลือกสำหรับเพื่อนๆ ในเว็บไซต์



26/5/57

10 วิธีลดหน้าท้องแบบธรรมชาติ

          หากคุณกำลังสงสัยว่าวิธีลดหน้าท้องโดยใช้ยาลดความอ้วนและอาหารเสริมลดความอ้วนได้ผลจริงไหม ขอให้คุณลองพยายามลดหน้าท้องด้วยทุกวิธีที่เป็นธรรมชาติดูก่อนที่จะใช้ยาลดความอ้วน อ่านมาถึงตรงนี้แล้วหลายคนอาจยังคิดไม่ออกว่าวิธีลดหน้าท้องแบบธรรมชาติต้องทำยังไง icareyour เลยนำ 10 วิธีลดหน้าท้องแบบธรรมชาติมาฝาก ลองมาดูกันว่า วิธีลดหน้าท้องแบบธรรมชาติทำง่ายหรือว่ายาก



วิธีลดหน้าท้อง#1 – ดื่มน้ำมากขึ้น


          มีหลายบทความที่เราพูดถึง เรื่องดื่มน้ำให้มากมากขึ้น การดื่มน้ำมากขึ้นอาจจะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ในการลดไขมันหน้าท้องที่เป็นปัญหาสำหรับสาวๆ หลายคน การดื่มน้ำมากขึ้นไม่เพียงแต่ช่วยลดไขมัน น้ำยังช่วยลดความเสี่ยงปัญหาทางเดินอาหาร ช่วยลดอาการปวดหัว ช่วยให้ผิวใสสุขภาพดี และอื่นๆ อีกมากมาย

วิธีลดหน้าท้อง#2 – โฟกัสไปที่ไขมันทุกส่วน


          มันเป็นไปไม่ได้ที่จะลดไขมันเฉพาะจุดโดยวิธีธรรมชาติ เพราะฉะนั้นให้โฟกัสไปที่ไขมันโดยรวมของร่างกาย คุณอาจจะคิดว่าการโฟกัสไปที่หน้าท้องจะทำให้ลดไขมันหน้าท้องได้รวดเร็วขึ้น แต่เปล่าเลย หน้าท้องของคุณจะสวยแบนราบได้รูปก็ต่อเมื่อเปอร์เซ็นต์ไขมันทั้งร่างกายของคุณอยู่ที่ 19 เปอร์เซ็นต์(สำหรับผู้หญิง)

วิธีลดหน้าท้อง#3 – นอนหลับสนิทให้เพียงพอ



          นี้อาจจะเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดและยากที่สุด การนอนเป็นสิ่งที่คนเราต้องทำเป็นประจำอยู่แล้ว แต่การหาเวลาในชีวิตที่แสนจะวุ่นวายในแต่ละวันเพื่อนอนหลับให้สนิทและเพียงพอเป็นอะไรที่ยากมาก บางคนอาจจะไม่เข้าใจว่าการนอนตั้งแต่ 4 ทุ่ม หรือก่อนหน้านั้น มันดียังไง งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์มากมาย ได้แสดงให้เห็นซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าการนอนหลับสนิทและเพียงพอ ทำให้ไขมันหน้าท้องลดลงและเวลาตื่นจะรู้สึกสดชื่น มีพลังงานมากขึ้นตลอดทั้งวัน

วิธีลดหน้าท้อง#4 – HIIT


          HIIT ก็คือการคาร์ดิโอแบบความเข้มข้นสูง นั้นเอง ทำได้ไม่ยากเพียงแค่วิ่งด้วยความเร็วสูงสุดเป็นเวลา 30 วินาทีถึงหนึ่งนาทีสลับกับการวิ่งช้าๆ ในเวลาเท่าๆ กัน ข้อดีของมันคือเราใช้เวลาไม่เยอะในการออกกำลังกายด้วยการคาร์ดิโอแบบความเข้มข้นสูง ถ้าคุณใช้เวลาในการออกกำลังกายแบบแอโรบิก 40 นาที ด้วยการปั่นจักรยานช้าๆ คุณจะเผาผลาญไขมันในระหว่าง 40 นาทีนั้น แต่ด้วยการออกกำลังกายแบบ HIIT เพียงแค่ 10-20 นาที คุณจะเผาผลาญไขมันตลอดทั้งวันหลังจากที่คุณออกกำลังกาย

วิธีลดหน้าท้อง#5 – วิตามิน ดี!



          คุณอาจจะคิดไม่ออกว่าวิตามินกับไขมันหน้าท้องเกี่ยวกันยังไง หลายคนอาจนึกถึงวิตามินลดสัดส่วนที่ขายตาม facebook ที่ไม่รู้ว่าส่วนประกอบของมันมีอะไรบ้าง แต่เรากำลังพูดถึงวิธีลดหน้าท้องแบบธรรมชาติ เพราะฉะนั้นเราจะพูดถึงแต่วิตามินที่ได้จากธรรมชาติ อย่างเช่น วิตามินดี(Vitamin D) ที่มักถูกเรียกว่าวิตามินแห่งความสุขและความรู้สึกดี เป็นกุญแจสำคัญของการลดไขมัน วิตามินดีหาได้จากแสงแดดยามเช้าและตับปลา หอย ไข่แดง แต่วิตามินดีที่ได้จากอาหารจะน้อยกว่าที่ได้รับจากแสงแดดยามเช้า

วิธีลดหน้าท้อง#6 – กินไขมันที่ดีต่อร่างกาย



          ความนิยมในการกินอาหารไขมันต่ำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เรามักจะเห็นอาหารในร้านสะดวงซื้อมากมายติดฉลากว่า “ไขมันต่ำ” แต่ไขมันที่ต่ำอาจจะไม่ใช่ไขมันที่ดี ร่างกายคนเราต้องกายไขมันที่ดีต่อสุขภาพเพื่อนำไปใช้ในการเผาผลาญไขมัน ดังนั้นหากคุณเป็นคนที่ชอบกินอาหารไขมันต่ำในร้านสะดวกซื้อก็ถึงเวลาแล้วที่คุณจำเป็นต้องเพิ่มไขมันที่ดีต่อสุขภาพในอาหารของคุณด้วย เช่น อะโวคาโด, น้ำมันมะกอก, ปลาแซลมอนและเนยถั่วลิสง อาหารเหล่านี้ช่วยให้คุณลดไขมันในร่างกายได้เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวการกินไขมันที่ดีต่อสุขภาพ

วิธีลดหน้าท้อง#7 – หลีกเลี่ยงของไม่ธรรมชาติ



           โลกสมัยใหม่มีหลายอย่างไม่เป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะสิ่งที่เรารับเข้าสู่ร่างกายของเราในชีวิตประจำวัน เช่นความเครียด อาหารปรุงแต่ง มลพิษในเมืองใหญ่  สิ่งเหล่านี้ส่งผลเสียต่อร่างกายของเรา ยิ่งคุณหลีกหนีจากสิ่งเหล่านี้ได้มากเท่าไหร่ คุณก็จะห่างไกลกับความอ้วนมากเท่านั้น หันกลับสู่ธรรมชาติกินอาหารคลีน ผักผลไม้ หลีกหนีความเครียดจากข่าวที่ไม่ดีในทีวี หนังสือพิมพ์ หลีกหนีอาหารจานด่วนอาหารขยะที่ไม่ได้ช่วยอะไรคุณเลยในการลดหน้าท้อง

วิธีลดหน้าท้อง#8 – Say no! เครื่องดื่มแอลกอฮอล์



          เลิกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภทที่เต็มไปด้วยน้ำตาลและน้ำตาลที่นำไปสู่การมีไขมัน คุณอาจจะเคยเห็นงานวิจัยที่บอกว่าการดื่มแอลกอฮอล์บางชนิด วันละแก้วเป็นสิ่งที่ดีสำหรับร่างกายเพราะช่วยให้คุณผ่อนคลายหรือช่วยลดความดันเลือด แต่สิ่งที่งานวิจัยเหล่านั้นไม่ได้พูดถึงคือการสะสมไขมันในร่างกายจากการดื่มแอลกอฮอล์จนทำให้คุณมีพุง ดังนั้นถ้าจะลดหน้าท้องไม่ดื่มแอลกอฮอล์ดีที่สุด

วิธีลดหน้าท้อง#9 – ดื่มชาสมุนไพร



          ชาสมุนไพรธรรมชาติ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถเพิ่มความเร็วในการเผาผลาญอาหาร ช่วยทำความสะอาดอวัยวะภายในร่างกาย ลดความเครียด อย่างชาเขียว มีสาร EGCG อยู่มากกว่าชาชนิดอื่น ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน ดังนั้นการดื่มชาเขียวเป็นวิธีลดหน้าท้องแบบธรรมชาติที่ดีวิธีหนึ่ง

วิธีลดหน้าท้อง#10 – มุมานะ



          นี้มันสุดยอดเคล็ดลับแห่งความสำเร็จเลยก็ว่าได้ เมื่อความรู้พร้อม ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับความมุมานะนี้แหละว่าจะทำให้คุณเอาชนะไขมันหน้าท้องได้ไหม ด้วยความมุมานะของคุณทำตามความรู้ที่คุณอ่านมาเป็นประจำรับลองว่าคุณสามารถลดหน้าท้องได้อย่างรวดเร็วแน่นอน แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณละเลยที่จะทำตามความรู้นั้น ปัญหาไขมันหน้าท้องของคุณจะเลวร้ายยิ่งขึ้นแน่นอน
          วิธีลดหน้าท้องแบบธรรมชาติ ดูเหมือนจะทำได้ง่ายและทำได้อย่างรวดเร็วไม่เสียเวลา แต่ก็ยังมีเคล็ดลับนั้นก็คือทำให้เป็นกิจวัตรประจำวันของคุณเพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องกังวลกับไขมันหน้าท้องอีก สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่มีวิธีลดหน้าท้องแบบธรรมชาติที่ดีกว่านี้ สามารถแชร์มาให้กับเราได้เลย!


25/5/57

เมนูลดน้ำหนัก ลดความอ้วน สูตรนางเอก 5 กิโลกรัมใน 1 สัปดาห์



            เบนซ์-พรชิตา ณ สงขลา ออกตัวว่าเป็นนางเอกช่างกิน แต่ที่ไม่อ้วนก็เพราะมีสูตรเด็ดไว้ค่อยควบคุมน้ำหนัก แถมสูตรนี้ยังฮิตในบรรดานางเอกช่อง 3 อีกด้วย บรรดาสาวๆ ที่อยากหุ่นดีไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
            เบนซ์ไม่ได้เน้นบำรุงผิวมาก เพราะใส่ใจเรื่องกินมากกว่า เบนซ์กับพี่ชายชอบหาเมนูสุขภาพที่ต้องมีผักและผลไม้มาลองทำกัน บางครั้งจะออกไปกินอาหารนอกบ้านกับพี่มิกซ์-บรมวุฒิ เลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพและอร่อย บางช่วงกินเพลินจนน้ำหนักเพิ่ม ก็ต้องนำสูตรลดความอ้วนมาใช้ สูตรนี้ทำแล้วเห็นผลดี ลดอ้วนได้โดยไม่ต้องอดอาหาร เบนซ์แนะนำเพื่อนๆ ดาราช่อง 3 หลายคนให้ลองทำ ล่าสุด นานา ไรบีนา กินสูตรนี้ก่อนที่จะถ่ายแบบชุดว่ายน้ำค่ะ
สูตรลดอ้วนแบบเบนซ์…เบนซ์…
            เมนูลดน้ําหนัก สูตรนี้ใช้บ่อยเวลาที่ต้องการลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน ทำอาทิตย์เดียวลดได้ 5 กิโลกรัม หากทำซ้ำ 2 รอบจะลดได้ถึง 7 กิโลกรัม ควรกินน้ำอย่างน้อย 2 แก้วก่อนกินอาหารทุกมื้อ และทำติดต่อกันไม่เกิน 2 อาทิตย์
วันที่ 1
เช้า โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย
เที่ยง ไข่ต้ม 2 ฟอง
เย็น สลัดผักน้ำใส
 
วันที่ 2เช้า น้ำผลไม้คั้น 1 แก้ว
เที่ยง ไข่ต้ม 2 ฟอง
เย็น โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย
วันที่ 3
เช้า โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย
เที่ยง เกาเหลาลูกชิ้น 1 ชาม
เย็น สับปะรด 1 ชิ้น
วันที่ 4
เช้า น้ำผลไม้คั้น 1 แก้ว
เที่ยง ส้มตำ-ไก่ย่าง
เย็น โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย
วันที่ 5
เช้า น้ำผลไม้คั้น 1 แก้ว
เที่ยง สลัดผักน้ำใส + ไก่ย่าง
เย็น สลัดผักน้ำใส
วันที่ 6
เช้า น้ำผลไม้คั้น 1 แก้ว
เที่ยง ปลานึ่งหรือปลาย่าง (ไม่จำกัด)
เย็น นมสดรสจืด 1 แก้ว
วันที่ 7เช้า ข้าว 1 ทัพพี + ไข่ต้ม 1 ฟอง
เที่ยง เกาเหลาลูกชิ้น 1 ชาม
เย็น สับปะรด 1 ชิ้น

พุงหาย ไขมันหด ลดจริง (ทำตามคลิปวันละ 2 รอบไม่ลดให้รู้ไป )

มาออกกำลังกายฟิตเฟริมกันคร้า สำหรับลูกค้าที่น้ำหนักเริ่มลด ลองเพิ่มการออกกำลังกายเพื่อให้กล้ามเนื้อ­กระชับกันนะคะ พุงหาย ไขมันหด ลดจริง (ทำตามคลิปวันละ 2 รอบไม่ลดให้รู้ไป ) โภชนการอาหาร 80% + ออกกำลังกาย 20% ฟิตเฟริมถาวร ลองดูซิคะ







7 วิธีการออกกำลังกายง่ายๆ สำหรับคนอยากมีน่องที่สวยงาม

            ผู้หญิงทุกคนอยากมีหุ่นดี ขาเรียวเล็ก น่องเล็กเรียวสวยงาม แล้วจะใช้วิธีไหนละถึงจะได้แบบที่ต้องการ เทรนเนอร์ตามฟิตเนสบอกว่า การออกกำลังกลายเพื่อลดน่อง ทำให้น่องเรียว มีหลายท่ามากที่คุณสามารถทำได้ง่ายๆ เราได้รวบรวม 7 วิธีการออกกำลังกายเพื่อที่คุณจะได้มีน่องที่สวยเรียวเล็กตามที่คุณต้องการไว้แล้ว โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องเข้าฟิตเนส ไม่จำเป็นต้องมีเทรนเนอร์
1.Single Leg Calf Raise


            ท่านี้เป็นท่าที่ง่าย เพียงแค่ยืนบนขอบบันได หรือ ขอบอะไรก็แล้วแต่ที่สามารถวางปลายเท้าได้ วางเท้าไว้ข้างเดียวแล้วหย่อยส้นเท่าให้ต่ำกว่าปลายเท้า ส่วนเท้าอีกข้างหนึ่ง ที่ไม่ได้ใช้ ให้ชี้เท้าลงพื้น หรือเกี่ยวไว้บริเวณส้นเท้าอีกข้างหนึ่ง จากนั้นออกแรงไปที่กล้ามน่องแล้วยกส้นเท้าดันตัวขึ้น ลำตัวต้องตรงตลอดเวลา จนกระทั้งยกส้นเท้ามากกว่านี้ไม่ได้แล้ว ให้ค้างไว้ 2 วินาที แล้วลดส้นเท่าลงช้าๆ จนกระทั้งส้นเท้าลงไปถึงจุดต่ำสุดในท่าเริ่มต้นตอนแรก แล้วทำซ้ำจนครบ 12 – 15 ครั้ง ก็สลับมาใช้เท้าอีกข้างหนึ่งแทน จนครบ 12 – 15 ครั้งเหมือนกัน แล้วพักประมาณ 1 นาที  แล้วเริ่มทำต่อ อีก 1 – 2 เซต เซตละ 12 – 15 ครั้ง แค่นี้คุณก็มีน่องที่สวยงามได้แล้ว
Tip: ใช้เก้าอี้หรือราวไว้จับเพื่อช่วยในการทรงตัว

2.Double Leg Calf Raise



            ท่านี้เหมือนกับท่าแรก แต่จะใช้ 2 เท้า ยืนบนขั้นบันได หรือ ขอบอะไรก็ได้  หรือ ไม่ก็ยืนบนพื้นเรียบ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ไม่ว่าจะเป็นห้าง ร้านสะดวกซื้อ บ้าน หรือขอบถนน แต่เราไม่แนะนำให้ยืนบนขอบถนนเพราะอาจเกิดอันตรายได้ ท่านี้ทำได้โดย ยืนตรง ลำตัวตั้งตรง แล้วค่อยๆ ยกส้นเท้าขึ้นให้สุดจนยกขึ้นอีกไม่ได้แล้ว ค้างไว้ 2 วินาที แล้วลดส้นเท้าลง แล้วทำซ้ำ ถ้าคุณมีเวลาว่างมากพอทำ 3 เซต เซตละ 20 ครั้ง
Tip: ใช้เก้าอี้ ราว หรือ ผนัง ช่วยในทรงตัวก็ได้
3.Seated Calf Raise


            นี้ก็เป็นอีกหนึ่งท่าออกกำลังกายง่ายๆ สำหรับคนอยากมีน่องสวย สามารถทำได้ที่บ้าน ที่โต๊ะทำงานของคุณ หรือที่ฟิตเนส ที่ฟิตเนสมีเครื่องที่ใช้เล่นดังนั้นเราจะข้ามอธิบายในส่วนฟิตเนสไป สำหรับที่ทำงานหรือที่บ้าน คุณสามารถทำได้ด้วยการนั้งเก้าอี้ ยืดลำตัวให้ตรง เท้าแนบกับพื้น ต้นขาขนาดกับพื้น แล้วหาอะไรก็ได้ที่มีน้ำหนักพอประมาณที่คุณสามารถรับได้วางบนหน้าขาของคุณ จากนั้น ค่อยๆยกส้นเท้าขึ้นจนสุดและไม่สามารถยกขึ้นมากกว่านี้ได้อีกแล้วค่อยๆลดส้นเท้าลงกลับไปที่ท่าเดิม แล้วทำซ้ำ ทำท่านี้ประมาณ 3 เซต เซตละ 20 นาที แค่นี้ก็ได้น่องสวยๆ แล้ว
4. Run, Jog… Or Walk
            วิ่งออกกำลังกายหรือเพียงแค่เดินออกกำลังกาย ก็ส่งผลดีต่อน่องของคุณ ในความเป็นจริงแล้ว การวิ่ง การเดินออกกำลังกาย จะช่วยเผาผลาญไขมันทั้งร่างกายคุณ แถมยังเป็นการคาร์ดิโออีก ช่วยให้หัวใจคุณแข็งแรงขึ้น
Tip: ควรสวมรองเท้าที่เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บ
5.Stair Stepper
            ที่ฟิตเนสมีเครื่องพวกนี้ให้คุณใช้ได้สะดวกสบาย แต่เรากำลังพูดถึงการออกกำลังกายที่บ้านและที่ทำงาน คุณสามารถใช้ขั้นบันไดจริงๆ ในการออกกำลังกายได้เหมือนกัน และก็ควรสวมรองเท้าที่เหาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงอาการบาทเจ็บ
6.Knee Circles


            อาจจะดูแปลกๆ เวลาที่ทำ แต่ท่านี้ก็เป็นท่าออกกำลังกายที่ดี คุณอยากมีน่องสวย เพียงแค่ยืนตรงขาชิดกัน หัวเข่าชิดกัน มือเท้าสะเอวหรือวางไว้ที่เขาก็ได้ แล้วย่อตัวลงนิดหนึ่ง จากนั้น หมุนเขาให้เป็นวงกลม ทำไปเรื่อยๆ จนคุณพอใจ  หรือคุณเป็นคนบ้าพลัง จะหมุนแบบเร็วๆ ก็ได้ แต่ระวังสุขภาพด้วย
7.Ankle Circles


            เอาละกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงหลังจากหมุนเข่าแบบบ้าคลั่ง ท่านี้ก็ง่ายเช่นกัน คุณจะนั้งหรือยืนก็ได้ตามใจคุณ จากนั้น ให้ยื่นขาออกไปข้างหน้าแล้วหมุนข้อเท้า คุณจะยื่นขาทีละข้างหรือสองข้างก็ได้ แต่ถ้าคุณยืน คุณคงไม่คิดที่จะยื่นทั้งสองข้างหรอกนะ ทำท่านี้ซ้ำๆ สัก 3 เซต เซตละ 20 รอบ แล้วคุณจะมีน่องที่ดูดี
            เรารู้ว่าการออกกำลังกายด้วยท่าพวกนี้เป็นการออกกำลังกาย เล็กๆ น้อยๆ แต่ก็ได้ผลดีสำหรับคุณผู้หญิงที่ต้องการที่จะมีน่องเล็กสวยเรียวงามแน่นอน ขอแค่คุณผู้หญิงออกกำลังกายด้วยท่าพวกนี้สม่ำเสมอไม่นานเกินรอ คุณผู้หญิงก็จะไม่ต้องกลัวการใส่กางเกงขาสั้นแล้ว ส่วนคุณผู้หญิงท่านไหนที่มีท่าออกกำลังกาย


4 วิธีดีๆ ในการลดไขมันต้นแขนแบบรวดเร็ว

             ปัญหาไขมันต้นแขน แขนย้วย แขนห้อย แขนมีปีก แขนใหญ่ คงเป็นปัญหาที่หนักอกหนักใจสาวเล็ก สาวใหญ่ ไม่มากก็น้อย แต่อย่าพึ่งกังวลไปครับ icareyour.net เรามีวิธีลดต้นแขน ดีๆ ง่ายๆ มาฝากคุณผู้หญิงทุกคนที่ต้องการลดไขมันต้นแขนด้วยวิธีที่ทำได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก เอาละเรามาเริ่มลดไขมันต้นแขนอย่างรวดเร็ว ด้วย 4 วิธีง่ายๆ ต่อไปนี้


1.Push – Ups

               วิธีแรกคือ Push – Ups หรือก็คือการวิดพื้นนั้นเอง แรกๆ คุณอาจจะทำยากหรือทำไม่ได้เลย เพราะกล้ามเนื้อคุณยังไม่แข็งแรง ให้เริ่มต้นทำช้าๆ ด้วยการใช้หัวเข่าช่วยไปก่อน หลังจากกล้ามเนื้อแขนของคุณแข็งแรงพอแล้ว ก็ให้วิดพื้นด้วยท่าวิดพื้นปกติ โดยไม่ต้องใช้หัวเข่าช่วย คุณอาจจะสงสัยว่าแล้ววิดพื้นมันจะทำให้แขนใหญ่มีกล้ามปูรึเปล่า แน่นอนการวิดพื้นทำให้กล้ามใหญ่แต่มันไม่ใหญ่มากหรอกครับอย่ากังวลไป มันจะทำให้แขนคุณกระชับขึ้นเรียวเล็กและดูดี แน่นอน เพราะเมื้อคุณมีกล้ามเนื้อมากขึ้น คุณจะเผาผลาญไขมันได้มากขึ้นตามไปด้วย

2.ยกน้ำหนัก

               ออกกำลังการด้วยการยกน้ำหนักเพื่อลดไขมัน อย่าเริ่มต้นด้วยน้ำหนักที่มากเกินไป ให้เริ่มต้นจากน้ำหนัก   1 – 2 กิโลกรัม เมื่อแขนของคุณแข็งแรงกว่าเดิมแล้ว ค่อยปรับน้ำหนักให้มากขึ้นทีและนิด การออกกำลังกายแขนด้วยการยกน้ำหนักจะช่วยสร้างกล้ามเนื้อทำให้แขนกระชับ และยังช่วยให้เผาผลาญไขมันได้มากขึ้นอีกด้วย
ถ้าใครคิดไม่ออกว่าจะยกน้ำหนักลดต้นแขนด้วยท่าออกกำลังกายแขน ท่าไหนดี เราก็มีท่าออกกำลังกายลดต้นแขนดีๆ มาฝากนั้นก็คือ ท่า Lateral raise (คลิปวิดีโอ) ท่านี้ไม่ยากเลย ถือน้ำหนักไว้ข้างลำตัว แล้วกางแขนออกด้านข้างให้อยู่ระดับหัวไหล่จากนั้นลดแขนกลับมาที่เดิม ขณะที่ยกแขนต้องตรงไม่งอข้อศอก ถ้าคุณทำอย่างสม่ำเสมอ แขนกระชับแน่นอน

3. บิดแขน

               อย่าพึ่งหลอนกับชื่อ เราไม่ได้ให้คุณทำร้ายตัวเองด้วยการบิดแขนจนหัก แต่นี้คือการออกกำลังกายง่ายๆ ที่มีประสิทธิภาพช่วยให้คุณลดต้นแขนที่ไม่กระชับของคุณได้
               เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการลุกขึ้นยืน และกางแขนออกไปด้านข้างให้อยู่ระดับหัวไหล่ หงายมือขึ้นแล้ว บิดคว่ำมือลงให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้จากนั้นกลับไปที่เดิม แล้วทำซ้ำ ถ้าคุณทำท่านี้อย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกวันแขนคุณกระชับได้แน่นอน

4. กรรไกร

               ชื่อหัวข้อมันคืออัลไล…มันก็คือการออกกำลังกายง่ายๆ อีกนั้นแหละ ที่เรียกว่ากรรไกร เพราะการเคลื่อนไหวมันเหมือนกรรไกร เริ่มด้วยการลุกขึ้นยืนตรงและยืดแขนของคุณไปข้างหน้าให้อยู่ระดับหัวไหล่ของคุณแล้วยืดแขนไปด้านข้างให้อยู่ในระดับหัวไหล่เหมือนกันจากนั้นกลับมาข้างหน้า แขนขวาจะทับแขนซ้าย เหมือนกับกรรกรร จากนั้นก็ยืดแขนไปด้านข้างอีกครั้งแล้วกลับมารอบนี้ให้แขนซ้ายทับแขนขวา ทำสลับกันไปเรื่อยๆ  ทำสัก 20 ครั้ง สม่ำเสมอเป็นประจำทุกวัน
               ทั้งหมดที่แนะนำไปไม่อยากเลย หากคุณทำตามทั้งหมดนี้ เป็นเวลาอย่างน้อย 10 – 15 นาที ทุกวันคุณจะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของต้นแขนของคุณ ว่ามันกระชับและเล็กลง แต่สิ่งที่สำคัญที่คุณไม่อาจลืมได้ก็คือ การควบคุมแคลอรีที่ได้รับจากอาหารที่คุณกินให้น้อยกว่าแคลอรีที่ใช้ออกไปผ่านทางกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละวัน และถ้าคุณออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอด้วย จะดีมาก



22/5/57

ไม่ต้องอด ก็ผอมได้...กินกล้วยสิ !


    Go Bananas ไม่ต้องอด ก็ผอมได้...กินกล้วยสิ ! (Lisa)

              อาจฟังดูไม่น่าเชื่อ แต่หนุ่ม ๆ สาว ๆ ชาวญี่ปุ่นหลายร้อยคนยืนยันว่า แค่ปอกกล้วยเข้าปากก็ผอม เพรียว และสวยได้ง่าย ๆ บางคนลดได้ 1.7 กิโลกรัมใน 2 สัปดาห์ เริ่ดไหมล่ะ?

     สูตรไดเอตจากชีวิตจริง

              สูตรไดเอตต่าง ๆ มักจะมีที่มาจากผู้เชี่ยวชาญ เช่น นักโภชนาการ นักกำหนดอาหาร หรือแพทย์ แต่จุดเริ่มต้นของ "Banana Breakfast Diet" เกิดจาก "ฮามาจิ" ผู้ชายอ้วน ๆ ชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งที่พยายามทำทุกทางเพื่อความผอม ทั้งออกกำลังกายหนัก ๆ วิ่งวันละหลายชั่วโมง ไปจนอดอาหารดื่มแต่นมถั่วเหลือง แต่กลับไม่ได้ผลอย่างที่คาดหวัง แถมยังรู้สึกเหนื่อยมาก ๆ 

              แต่หลังจากกินกล้วยตามคำแนะนำของ "สึมิโกะ" เภสัชกรที่ศึกษาด้านโภชนบำบัดและเวชศาสตร์การป้องกัน ภายใน 6 เดือน น้ำหนักของเขาก็หายไปถึง 13 กิโลกรัม ทั้งคู่จึงพัฒนาแนวคิดเป็นสูตรไดเอต แนะนำลงบน MIXI ชุมชนออนไน์ของญี่ปุ่น กลายเป็นกระแสยอดฮิตที่ทำให้สมาชิกลดน้ำหนักได้กว่า 300 คน จนได้รับการตีพิมพ์เป็นหนังสือ มียอดขายถล่มทลายเกิน 1 ล้านเล่มในญี่ปุ่น และได้รับการแปลเป็นภาษาไทยโดยสำนักพิมพ์เนชั่นบุ๊คส์ในชื่อ "ผอม สวย กล้วยช่วยได้"


     กล้วยนี้มีดีอะไร

              กล้วยเป็นผลไม้ที่หากินได้ง่าย ราคาไม่แพง แถมยังอุดมไปด้วยสารอาหารมากมายที่เกี่ยวข้องกับการลดความอ้วนก็คือ

               วิตามินบี 1 และบี 2 ที่ช่วยเร่งการเผาผลาญน้ำตาลและไขมัน ป้องกันตัวบวม และฟื้นฟูร่างกายจากความเหนื่อยล้า

               - โพแทสเซียม ช่วยในการขับโซเดียมออกทางปัสสาวะ

               - เส้นใยอาหาร ช่วยในการขับถ่าย บรรเทาอาการท้องผูก

               - เซโรโทนิน ช่วยลดอาการหงุดหงิดและความอยากอาหาร

               - เอนไซม์ช่วยย่อยอาหารที่จะช่วยทำให้สารอาหารดูดซึมไปใช้ได้ทันที

               - น้ำตาลที่หลากหลาย ทั้งกลูโคส ฟรักโทส ซูโครส และแป้ง ทำให้อิ่มท้องได้นาน ลดความถี่และปริมาณการบริโภคน้ำตาลในระหว่างวันได้ด้วย

     วิธีกินก็สำคัญ

              หลักของสูตรไดเอตที่ฮามาจิค้นพบ นอกจากจะอาศัยประโยชน์จากกล้วยช่วยให้ผอมแล้ว การกินให้สัมพันธ์กับระบบการย่อยก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้สูตรนี้ "ได้ผล" โดยเขาบอกว่าการกินแค่กล้วยซึ่งเป็นผลไม้ย่อยง่ายและน้ำเปล่าในตอนเช้า จะทำให้กระเพาะ ลำไส้ และอวัยวะในระบบย่อยก็จะทำงานได้สะดวกขึ้น 

              เพราะตามหลักการของเวชศาสตร์การป้องกัน หลังกินไปแค่ 15-20 นาที กล้วยจะเคลื่อนที่ไปสู่ลำไส้ และเริ่มถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ขณะที่ผัก คาร์โบไฮเดรต และโปรตีน จะใช้เวลาในการย่อยนานกว่า 3-4 ชั่วโมง ส่วน "น้ำ" ก็จะช่วยทำให้การหมุนเวียนของเลือดและของเหลวในร่างกายดีขึ้น เมื่อระบบต่าง ๆ ดีขึ้นคุณก็จะผอมลง แถม "กล้วย" ยังเป็นมื้อเข้าง่าย ๆ เหมาะกับชีวิตเร่งรีบของเราสุด ๆ

     ออกกำลังกายเมื่ออยากออก

              แน่นอนว่าถ้าอยากผอมคงละเลยการออกกำลังไปไม่ได้ แม้สูตรนี้จะไม่ได้บอกให้คุณอดอาหารจนเป็นอันตรายถ้าไปออกกำลังกาย ฮามาจิ บอกว่า เมื่อคุณน้ำหนักเกินมาก ๆ การฝืนออกกำลังแบบหักโหมอาจทำให้บาดเจ็บได้ และการที่ร่างกายรู้สึกทรมานนั้นมีสาเหตุ หากสิ่งที่ทำนั้นดีต่อสุขภาพ คุณก็จะไม่รู้สึกทรมาน ถ้าคุณไม่พร้อม การแกว่งแขนไปมายังมีผลดีต่อการไดเอ็ตมากกว่าการวิ่งจนหอบเสียอีก เมื่อรู้สึกแข็งแรงขึ้น ค่อยออกกำลังให้หนักขึ้นก็ยังไม่สาย


     มาเริ่มกินกล้วยไดเอตกันเถอะ !

              คอนเซ็ปต์ของ "Banana Breakfast Diet" ก็คือไม่ต้องอด ไม่ต้องทน ไม่เปลืองเงิน ไม่เปลืองเวลา วิธีเพื่อความผอมก็เลยไม่ยุ่งยาก

              - ตื่นนอน : ถ้าตื่นเองโดยธรรมชาติไม่ต้องพึ่งเสียงนาฬิกาปลุกจะยิ่งดีต่อระบบขับถ่าย

              - มื้อเช้า : กินกล้วยอะไรก็ได้ กี่ลูกก็ได้ แต่ต้องเคี้ยวให้ละเอียดและดื่มน้ำเปล่าอุณหภูมิห้อง

              - ช่วงเช้า : ถ้ารู้สึกไม่อยู่ท้องให้เว้นช่วยหลังกินกล้วยสัก 15-30 นาที กินข้าวต้มสักชามหรือผลไม้ก็ได้

              - มื้อกลางวัน : กินอะไรก็ได้ ไม่มีข้อกำหนดตายตัว

              - หลังเที่ยง : หรือหลังมื้ออาหารกลางวันประมาณครึ่งชั่วโมง เพื่อให้การย่อยดำเนินไปได้ด้วยดี อย่าเพิ่งออกกำลังกาย

              - 15.00 น. : หากอยากกินของว่าง อนุญาตแค่เวลานี้เท่านั้น จะเป็นขนมหรือผลไม้ก็ได้

              - มื้อเย็น : กินอะไรก็ได้ แต่ควรกินให้เร็วกว่าปกติสักครึ่งชั่วโมง และดึกที่สุดไม่เกินสองทุ่ม

              - หลังมื้อเย็น : ถ้าต้องอยู่ทำงานจนดึกกินได้แค่ผลไม้สักลูกหนึ่งเท่านั้น

              - เข้านอน : พยายามฝึกนอนก่อนเที่ยงคืนให้เป็นนิสัย เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูได้เต็มที่ที่สุด

       ไดเอตนี้ไม่ได้เหมาะกับทุกคน

                ถึงจะดูเหมือนเป็นสูตรที่ทำได้ไม่ยาก แต่ก็ไม่มีสูตรไดเอตที่เพอร์เฟคท์ อย่างน้อย ๆ คนที่แพ้กล้วยก็ใช้สูตรนี้ไม่ได้แน่นอน และใครที่มีโรคประจำตัวก็ต้องถามหาหมอเสียก่อน นอกจากนี้ มีหลายคนที่ลองสูตรนี้เป็นเดือน น้ำหนักก็ยังไม่ลงสักนิด 

                ฮามาจิ บอกว่า "คนที่ไม่ได้ผลมักจะมีเหตุที่ทำให้ผอมยาก เช่น นอนดึก สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า เครียดจัด" ถ้าคุณเป็นหนึ่งในคนกลุ่มนี้ ลองมาหาสูตรไดเอ็ตอื่น หรือปรับพฤติกรรมก่อนจะดีกว่า

       Note

                ถึงแม้สูตรจะอนุญาตให้คุณตามใจปากได้ในมื้อกลางวันและมื้อเย็น แต่ถ้าคุณกินแบบย่ามใจเกินไป ไดเอตก็คงล้มเหลวและอาจจะอ้วนขึ้นแทนก็ได้นะ

      ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ลดน้ำหนักไม่สำเร็จสักที เพราะมัวหลอกตัวเองเหมือน 8 ข้อนี้ใช่ป่ะ ?


      ไม่ว่าจะกี่สูตรลดความอ้วน โปรแกรมไดเอตแจ๋ว ๆ สักกี่แผน ก็เอาความอ้วนที่มีไม่อยู่ สาวคนไหนเจอปัญหาลดน้ำหนักไม่สำเร็จสักทีแบบนี้ มาเจาะลึกเพื่อหาผู้ร้ายตัวจริงที่ทำให้เราลดความอ้วนไม่ได้ตามเป้ากันดีกว่า

             รู้ทั้งรู้ว่าลดความอ้วนไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ แต่สาว ๆ หลายคนก็อดใจไม่ไหวกับของหวาน น้ำอัดลม ชาไข่มุก และเค้กยามบ่ายจริงไหมคะ ดังนั้นก็คงไม่ต้องแปลกใจที่จะมีสัดส่วนอวบอั๋นเกินความต้องการไปสักหน่อย แต่ถ้าตอนนี้ใครกลับใจมาลดน้ำหนัก กระชับทรวดทรงให้สุดเป๊ะ แต่จนแล้วจนรอดตัวเลขบนตาชั่งก็ไม่น้อยลงกว่าเดิมสักที สัดส่วนก็ไม่ได้เล็กกระชับได้อย่างที่หวังไว้ นั่นอาจจะเป็นเพราะคุณหล่อเลี้ยงความอ้วนไว้ด้วยคำโกหกตัวเองเหล่านี้อยู่หรือเปล่าเอ่ย ?

        1. กินอาหารไดเอตมาทั้งสัปดาห์ วันหยุดจะจัดเต็มบ้างคงไม่เป็นไร

             อ๊ะ อ๊ะ อย่าคิดนะคะว่า การทุ่มเทควบคุมอาหารตั้งแต่วันจันทร์ตลอดจนวันศุกร์ ก็น่าจะเพียงพอให้น้ำหนักลดไปได้บ้างแล้ว พอถึงวันสุดสัปดาห์เลยจัดซะเต็มที่ น้ำหวาน อาหารบุฟเฟต์ บุกตะลุยกินไม่ยั้ง แล้ววันจันทร์ค่อยมาเริ่มควบคุมอาหารกันใหม่ ใครที่มีพฤติกรรมลดน้ำหนักแบบนี้อยู่ บอกได้เลยว่า ผอมยากจ้า นั่นก็เป็นเพราะร่างกายของเราไม่ใช่ธนาคาร หรือหีบสมบัติสักหน่อยนี่คะ อาหารที่เรากินเข้าไปแต่ละอย่างในวันนั้น ร่างกายก็จะได้รับแคลอรี่เต็ม ๆ ไม่มีการผ่อนปรน หรือโอนถ่ายแคลอรี่ไปใช้ในวันอื่น ๆ ได้ตามใจ คราวนี้ไขมัน น้ำตาล แป้ง ที่สะสมอยู่ในร่างกาย ก็จะเแปรสภาพเป็นพุงกะทิ และชั้นไขมันหนาเตอะทันที

        2. ระบบเผาผลาญไม่ดี

             กลายเป็นข้ออ้างอันดับต้น ๆ ของคนที่ลดน้ำหนักล้มเหลวเลยก็ว่าได้ ทั้งที่จริงแล้ว ร่างกายของเรามีระบบเผาผลาญในระดับปกติกันมาตั้งแต่เกิด ยกเว้นแค่คนที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง แต่ส่วนใหญ่ที่ลดน้ำหนักกันไม่ได้ตามเป้า ก็เป็นเพราะพฤติกรรมชอบกินน้ำหวาน และน้ำตาลของตัวเองต่างหาก ที่ไปกระทบกับฮอร์โมนในร่างกาย ส่งผลให้ระบบเผาผลาญติดขัด ทำงานได้ไม่เต็มที่ แคลอรี่ในร่างกายก็เลยไม่ได้ถูกกำจัดออกไปมากเท่าคนที่ดูแลตัวเองดี

        3. ไดเอตบ้าง กินบ้าง ไม่ทำให้น้ำหนักขึ้นเท่าไรหรอก

             สำหรับสาวที่เห่อไดเอตเป็นพัก ๆ ตามใจปากเป็นหน ๆ เพราะคิดว่าคงไม่ทำให้น้ำหนักและทรวดทรงต่างไปจากเดิมเท่าไร ลองคิดดูใหม่ดีกว่าค่ะ เนื่องจากพฤติกรรมไดเอตตามอำเภอใจอย่างที่กล่าวไป ไม่เพียงแต่ทำให้คุณไขว้เขว ไม่มีความหนักแน่นกับการลดน้ำหนักเท่านั้น แต่ร่างกายก็อาจจะปรวนแปร สับสนในกระบวนการเผาผลาญพลังงาน สุดท้ายก็เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูง สร้างความรู้สึกเสพติดของหวานตลอดไป

        4. งดมื้อเช้า จะได้ลดแคลอรี่

             การพลาดมื้ออาหารไปสักมื้อไม่ได้ทำให้คุณผอมลงแต่อย่างใด แต่มันกลับทำให้คุณรู้สึกหิวโหย เพราะกระบวนการเผาผลาญในร่างกายเกิดรวนขึ้นมาต่างหาก ไม่เชื่อก็ลองสังเกตดูสิว่า วันไหนที่คุณอดมื้อเช้า คุณจะรู้สึกอยากกินน้ำหวาน และช่วงบ่ายก็จะหิวจนต้องหาขนมมากินจนได้รับแคลอรี่คูณสองเลยทีเดียว

        5. กินคำสองคำ ไม่เป็นไรหรอกน่า
             เค้กหน้าตาน่ากิน หรืออาหารจานโปรดที่วางอยู่ต่อหน้า ขืนคุณได้ตักมากินสักคำสองคำโดยไม่ยับยั้งชั่งใจ คำที่สามที่สี่ และคำต่อ ๆ ไปก็จะตามมา คราวนี้ก็อย่าปรี๊ดแตกเวลาขึ้นชั่งน้ำหนักล่ะ

        6. ออกกำลังกายเป็นประจำ ก็กินได้อีกเยอะ

             แม้จะขยันออกกำลังกายเป็นบ้าเป็นหลัง แต่ไม่ยอมควบคุมอาหารเลยสักนิด หนำซ้ำยังจัดเต็มกว่าเดิมอยู่บ่อย ๆ ก็การันตีได้เลยว่าคงไม่ผอมได้ง่าย ๆ นะจ๊ะ เพราะการออกกำลังกายช่วยเผาผลาญพลังงานให้คุณได้ก็จริง แต่ก็เน้นหนักไปในทางเปลี่ยนไขมันเป็นกล้ามเนื้อ และให้ร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง ไม่ได้เบิร์นไขมันส่วนเกินได้เยอะขนาดที่คุณหวังไว้

        7. จัดเต็มอาหารเสริมแล้ว กินอาหารขยะได้ตามสบาย
             ใครที่คิดว่ากินอาหารเสริม ตัวดักไขมันเข้าไปแล้ว ก็สามารถกินของทอด และอาหารขยะได้ตามสบายหายห่วง ต้องบอกตรงนี้เลยว่า คิดผิดถนัดค่ะ เพราะต่อให้อาหารเสริมจะดีเลิศ ราคาแพงแค่ไหน ยังไงก็ไม่มีทางเข้ากันได้กับโมเลกุลในร่างกายของเรา ฉะนั้นจะหวังผลตามคำโฆษณา ก็อาจจะเป็นแค่ฝันลม ๆ แล้ง ๆ

        8. ลดความอ้วนเหรอ พรุ่งนี้ละกัน

             กว่า 80 % ของคนอยากผอม เคยผ่านการพูดประโยคนี้มาแล้วแทบทั้งสิ้น และสุดท้ายก็ยังคงเป็นแค่คนที่อยากผอมมาจนทุกวันนี้ยังไงล่ะ ฉะนั้นหากอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง ต้องไม่มีคำว่าพรุ่งนี้นะจ๊ะ


             ผู้ร้ายตัวจริงที่ทำให้การลดน้ำหนักของเราไม่เป็นผล แถมยังเหนื่อยเปล่าก็คือตัวเราเองนี่ล่ะเนอะ ดังนั้นถ้าตั้งใจอยากจะผอมจริง ๆ ก็ควรต้องละทิ้งข้ออ้าง และการหลอกตัวเองแบบนี้ไปให้หมดนะคะ แล้วคราวนี้รับรองว่าคุณจะผอมสวย เปลี่ยนเป็นคนละคนจนใครเห็นก็ต้องตะลึง !


วิธีการดูแลตัวเองให้ผอมเพรียวง่ายๆ



นอกจากนี้วิธีการดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีและมีผิวสวยอย่างสม่ำเสมอก็คือ การดื่มน้ำให้ครบ 8 แก้วหรือวันละ 2 ลิตร เพื่อสุขภาพที่ดีและผิวที่สวยงามของท่าน หุ่นผอมเพรียวง่ายๆด้วยการออกกำลังกายโดยคุณไม่จำเป็นต้องไปฟิตเนสนอกสถานที่เลยนะค่ะ แน่นอนว่าคุณสามารถออกกำลังกายที่บ้านของคุณได้เองโดยไม่ต้องไปพึ่งฟิตเนสหรือว่าอะไรที่ต้องเสียเงินเลย นอกจากนี้การลดความอ้วนที่ผู้คนนิยมกันก็จะมีการรับประทานยาลดความอ้วน ซึ่งการรับประทานยาลดความอ้วนนั้นได้ผลค่ะแต่ก็ไม่ส่งผลดีต่อร่างกายเลยนะค่ะ มันมีผลข้างเคียงและผลเสียด้วยละค่ะ การออกกำลังกายและการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ไม่ต้องอดข้าวนะค่ะแต่ถ้าอยากอดจริงๆแน่นอนให้ดื่มน้ำก่อนทานข้าวจะช่วยได้ค่ะ ทำไมไม่ให้อดข้าว?? เพราะว่าการอดข้าวนั้นไม่เป็นผลดีต่อร่างกายอย่างแน่นอน…….. จึงไม่ขอแนะนำ มั่นใจได้เลยนะค่ะว่าวิธีนี้สามารถนำไปใช้ได้อย่างแน่นอนและเห็นผลค่ะ ลองนำไปทำดูนะค่ะและฝากเลี่ยงเรื่องของยาลดน้ำหนักด้วยนะค่ะเพราะยาลดน้ำหนักนั้นมีแต่โทษพาทำให้เราเสียเวลาในการออกกำลังกายและยังมีผลข้างเคียงมากมายที่เราอาจจะไม่รู้อีกด้วย นอกจากนี้หากเราเลิกยาลดน้ำหนักเมื่อไหร่ก็อาจจะกลับมาอ้วนได้เหมือนเดิมหรือมากกว่าเดิมก็เป็นได้ค่ะ

มั่นใจได้เลยค่ะว่าเราหมั่นออกกำลังกายดีกว่าค่ะเพราะวิธีการนี้จะช่วยลดน้ำหนักของท่านได้อย่างมั่นใจและไม่กลับมาอ้วนอีกแน่นอนค่ะ นอกจากนี้แล้วยังมีวิธีการลดความอ้วนด้วยการรับประทานอาหารเพื่อลดน้ำหนักได้ค่ะ เรียกได้ว่าเป็นอีกทริคนึงเลยก็ว่าได้ อ่ะๆๆๆ อาจจะไม่เชื่อใช่ไหมละค่ะ ว่าเพียงแค่ลดน้ำหนักด้วยการกินที่ถูกวิธีและลดน้ำหนักด้วยการหมั่นออกกำลังกายมันจะช่วยได้มากขนาดนั้น! ลองทำดูค่ะต้องลองนำไปใช้กับชีวิตประจำวันของคุณดูค่ะแล้วคุณจะรู้ว่าวิธีที่คุณคิดว่าไม่น่าเป็นผลอาจจะได้ผล แค่เราควรใช้เวลาและให้เวลามันนิดนึงนะค่ะ ^O^



อยากผอม ! 5 อาหารอ้วน ๆ พวกนี้ช่วยคุณได้


    อยากผอม ! 5 อาหารอ้วน ๆ พวกนี้ช่วยคุณได้ (Lisa)

              ไดเอตไม่ได้หมายความว่าต้องอด ที่จริงอาหารบางอย่างที่คุณแปะป้ายเป็นอาหารต้องห้ามก็เป็นตัวช่วยเพื่อความผอมที่คุณไม่ควรขาดเลยด้วยซ้ำ



    ข้าว
              ช่วยให้ผอมอย่างไร ? : สิ่งที่สาว ๆ หลายคนทำเวลาไดเอตก็คือตักข้าวออกจากจานอย่างน้อยก็ครึ่งหนึ่ง ที่จริงแล้วข้าวเป็นอาหารที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบสูงถึง 70% ซึ่งงานวิจัยจากสมาคมโภชนาการแห่งสหราชอาณาจักรชี้ว่า อาหารในลักษณะนี้จะทำให้คุณรู้สึกอิ่มนานกว่าอาหารแห้ง ๆ และยังให้พลังงานน้อยกว่าเมื่อเทียบในปริมาณที่เท่ากัน

              นอกจากนี้ คาร์โบไฮเดรตในข้าวยังช่วยกระตุ้นการผลิตเซโรโทนินเช่นเดียวกับในขนมปังอีกด้วย

               สิ่งที่ต้องรู้ : นอกจากข้าวแล้วยังมีพาสต้าอีกอย่าง แนะนำให้ลองเลือกเป็นข้าวกล้องจะเป็นข้าวต้มหรือข้าวสวยก็ได้ ส่วนถ้าเป็นพาสต้าก็ควรจำกัดปริมาณไว้ที่ประมาณครึ่งถ้วย


    เนยถั่ว

              ช่วยให้ผอมอย่างไร ? : เนยถั่วอุดมด้วยไขมันไม่อิ่มตัวโมเลกุลเดี่ยวที่ป้องกันการสะสมไขมันบริเวณหน้าท้อง กระตุ้นการเผาผลาญ ถือเป็นตัวช่วยชั้นยอดในการลดน้ำหนักเลยทีเดียว งานวิจัยจากคณะสาธารณสุข มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ระบุว่าผู้หญิงที่กินเนยถั่วมากกว่า 2 ครั้งต่อสัปดาห์ จะมีน้ำหนักตัวต่ำกว่าคนที่ไม่ได้กินเล็กน้อย 

              สอดคล้องกับผลวิจัยของมหาวิทยาลัยเพอร์ดูที่ชี้ว่า ของว่างที่มีเนยถั่วเป็นส่วนประกอบจะช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มได้นานกว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง ในขณะที่เค้กปริมาณเท่ากันจะทำให้คุณอิ่มเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น (คาร์โบไฮเดรตช่วยคุมความอยาก ส่วนถั่วทำให้อิ่มนานขึ้น)

               สิ่งที่ต้องรู้ : เวลาเลือกซื้อต้องอ่านฉลากให้ดี เลือกเนยถั่วที่ไม่ผ่านกระบวนการไฮโดรจิเนชั่นเพื่อหลีกเลี่ยงไขมันทรานส์ ซึ่งเป็นไขมันอิ่มตัวที่แย่ที่สุด และเนื่องจากเป็นอาหารพลังงานสูง กินแค่วันละประมาณ 2 ช้อนโต๊ะก็พอแล้ว


    ชีส

              ช่วยให้ผอมอย่างไร ? : เมื่อไรที่ขาดแคลเซียมร่างกายจะสร้างฮอร์โมน Calcitriol ซึ่งจะกระตุ้นให้ร่างกายเอาไขมันที่สะสมไว้ออกมาใช้และถึงจะเป็นอาหารต้องห้ามลำดับต้น ๆ แต่ชีสเป็นหล่งสำคัญของแคลเซียม ซึ่งงานวิจัยของมหาวิทยาลัยเทนเนสซีบอกว่า คนที่จำกัดแคลอรี่ในช่วงไดเอต หากกินแคลเซียมเพิ่มประมาณ 300-400 มก. ต่อวัน จะลดน้ำหนักได้มากกว่าคนที่ควบคุมแคลอรี่ในปริมาณเท่ากัน แต่กินแคลเซียมน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด

               สิ่งที่ต้องรู้ : แคลเซียมในชีสออนซ์เดียวช่วยให้คุณเบิร์นไขมันได้ถึง 5 กรัม แต่ควรจะกินชีสแบบไขมันต่ำ และกินแค่ประมาณวันละ 2 ออนซ์เท่านั้น



    มันฝรั่ง

              ช่วยให้ผอมอย่างไร ? : จริงอยู่ที่มันฝรั่งทอดกรอบ ๆ เป็นสิ่งที่คุณต้องหลีกหนีให้ไกลถ้าอยากผอม แต่ถ้าเป็นมันฝรั่งอบหรือต้มแล้ว มันจะกลายเป็นคนละเรื่องไปเลย เพราะแป้งในมันฝรั่งจะดูดน้ำแล้วเปลี่ยนรูปเป็นแป้งทนย่อยต่อเอนไซม์ ซึ่งนอกจากจะไม่ย่อยเป็นพลังงานแล้ว เมื่อเคลื่อนไปหมักที่ลำไส้ใหญ่ แป้งนี้จะสร้างกรดไขมันที่ยับยั้งความสามารถในการย่อยคาร์โบไฮเดรตออกมา คุณก็เลยได้ใช้พลังงานจากไขมันที่สะสมไว้แทนนั่นเอง

               สิ่งที่ต้องรู้ : ควรกินฝรั่งขนาดเท่ากำปั้นในยามเช้าเพื่อเปลี่ยนร่างกายเข้าสู่โหมดละลายไขมัน และทั้งวันต่อมาคุณจะสามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่าเดิมถึง 25%


    ขนมปัง

              ช่วยให้ผอมอย่างไร ? : ตำราไดเอตดัง ๆ หลายสูตร จะบอกให้คุณงดรับคาร์โบไฮเดรตเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งนี่ไม่ใช่ความคิดที่ถูกต้องทีเดียว พญ.นินา ที.ฟรัสซ์เทเตอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและผู้เขียนหนังสือ "The Serotonin Power Diet" บอกว่า คาร์โบไฮเดรตในขนมปังเป็นส่วนสำคัญในการผลิตสารสื่อประสาทที่ชื่อเซโรโทนิน ซึ่งเกี่ยวข้องกับความพึงพอใจของคุณ

              
    "ขณะที่ย่อยคาร์โบไฮเดรต ร่างกายของคุณจะปล่อยอินซูลินซึ่งจะกระตุ้นให้กรดอะมิโนทริปโตฟานในสมองเปลี่ยนไปเป็นเซโรโทนิน" ทำให้คุณไม่อยากอาหาร ในทางตรงกันข้ามหากคุณอดคาร์โบไฮเดรต ร่างกายจะมีสารนี้ต่ำเกินไป ทำให้คุณอยากกินมากเกินความต้องการและนำไปสู่ความอ้วนในที่สุดนั่นเอง

               สิ่งที่ต้องรู้ : การขัดขาวทำให้สารอาหารในแป้งลดลง ทำให้อิ่มช้า ระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นสูงและลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้น ควรจะเลือกกินขนมปังโฮลวีทล้วนสักวันละแผ่นจะดีกว่า

              ระวัง ! ผู้ผลิตขนมปังโฮลวีทบางรายกลัวลูกค้าจะไม่ชอบรสชาติเฝื่อนของแป้งไม่ขัดสีก็เลยจงใจผสมน้ำตาลลงไป ผลลัพธ์นะเหรอ...มันก็อ้วนพอ ๆ กับขนมปังขาวนั่นแหละ

      อย่าหลงไปตามโฆษณา

                ตัวหนังสือที่เขียนไว้ตัวโต ๆ อาจจะซ่อนความลวงบางอย่างที่ทำให้คุณกินเท่าไรก็ไม่ผอมสักทีเอาไว้ก็ได้

       เขาบอกว่า...ไม่เติมน้ำตาล

                เป็นไปได้ว่า...อาหารชนิดนั้นมีน้ำตาลตามธรรมชาติสูงอยู่แล้ว ไม่ต้องเติมก็หวานจัด พลังงานพุ่งปรี๊ด

       เขาบอกว่า...ไม่มีคอเลสเตอรอล

                เป็นไปได้ว่า...ไขมันอาจจะสูงก็ได้ เพราะเขาไม่ได้ระบุสักหน่อยว่าไม่มีไมันน่ะ

       เขาบอกว่า...ไขมันต่ำ

                เป็นไปได้ว่า...เขาลดปริมาณไขมันลง แต่เพื่อความอร่อยเขาอาจจะเติมน้ำตาลลงไปมากกว่าเดิมก็ได้ อ่านฉลากโภชนาการก่อนนะ


Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More

 
Design by Free WordPress Themes | Bloggerized by Lasantha - Premium Blogger Themes | Facebook Themes